สำหรับผลประกอบการครึ่งปีแรก 64 ของ ไรมอน แลนด์ บริษัทมีรายได้รวม 2,008.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,049.4 ล้านบาท จำนวน 959.3 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 91.4% โดยอัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นกว่าเดิมจาก 9.3% ในงวดเดียวกันของปีก่อนเป็น 24.9% และมีกำไรสุทธิ 104 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 269.9 ล้านบาท จำนวน 373.9 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 138.5%
ส่วนผลประกอบการไตรมาส 2/64 บริษัทมีรายได้รวม 409.5 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 625.8 ล้านบาท จำนวน 216.3 ล้านบาท หรือ ลดลง 34.6% อย่างไรก็ดีอัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นอย่างมากจาก 7.8% เป็น 25.8% ส่งผลให้ขาดทุนสุทธิลดลงจาก 130.4 ล้านบาท ในงวดเดียวกันของปีก่อนเป็นขาดทุนเพียง 34.3 ล้านบาทในไตรมาสนี้

โดยยอดขาย หรือ Presales ของบริษัทครึ่งปีแรก 64 อยู่ที่ 1,469.1 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มียอดขาย 1,881.2 ล้านบาท จำนวน 412.1 ล้านบาท หรือลดลง 21.9% อีกทั้ง บริษัทมียอดขายรอโอน หรือ Backlog ณ วันที่ 30 มิ.ย. 64 อยู่ที่ 5,655.1 ล้านบาท โดยเป็นยอดรอรับรู้รายได้จากโครงการ The Lofts Silom และโครงการสร้างเสร็จพร้อมโอนอื่นๆ อาทิ The River, The Lofts Asoke, The Diplomat 39 และ อื่นๆ
ทั้งนี้ ผลประกอบการครึ่งปีแรกปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้งรายได้และกำไร เนื่องจากการจัดโปรโมชั่นเร่งการขายและโอนรับรู้รายได้จากโครงการ เดอะ ลอฟท์ สีลม และ เดอะ ริเวอร์ ประกอบกับบริษัทได้ปิดโครงการเก่าที่มีส่วนลดพิเศษทั้งหมดแล้วในปีที่ผ่านมาทำให้อัตรากำไรปรับตัวดีขึ้นในงวดนี้
ขณะที่รายได้ไตรมาส 2/64 เติบโตลดลง เนื่องจากจำนวนยูนิตในโครงการสร้างเสร็จพร้อมโอน อาทิ โครงการ เดอะ ริเวอร์ เดอะ ลอฟท์ อโศก และ โครงการอื่นๆ ทยอยจำนวนลดน้อยลงเนื่องจากปิดการขายได้ ประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีมาตรการล็อกดาวน์ในช่วงไตรมาส 2 ทำให้ลูกค้าชะลอการตัดสินใจซื้อ

กรณ์ กล่าวอีกว่า ในส่วนแผนการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง 64 บริษัทดำเนินการก่อสร้างโครงการคอนโดมิเนียมระดับ อัลตราลักชัวรี และเปิดขายจำนวน 2 โครงการ ได้แก่ The Estelle Phrom Phong ความคืบหน้าการก่อสร้าง 45% และ โครงการ TAIT Sathorn 12 ความคืบหน้าการก่อสร้าง 21% อีกทั้ง ได้ดำเนินการก่อสร้างโครงการอาคารสำนักงาน One City Centre หรือ OCC ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัท กับบริษัท มิตซูบิชิ เอสเตท เอเชีย มีความคืบหน้าก่อสร้างกว่า 47%
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งแนวราบและแนวสูงระดับอัลตราลักชัวรี จำนวน 3 โครงการ มูลค่ารวม 20,000 ล้านบาท ได้แก่ โครงการบนพื้นที่ทำเลสุขุมวิท 38, โครงการสุขุมวิทตอนกลาง และ โครงการ Ocean Front Beach จ.ภูเก็ต โดยบริษัทมีการติดตามสภาพตลาดและมาตรการภาครัฐอย่างใกล้ชิด เพื่อปรับแผนการดำเนินงานให้เหมาะสมกับสถานการณ์.