ถ้าพูดถึงแหล่งช้อปปิ้งที่รวมทุกแบรนด์ดังเอาไว้ในที่เดียว แน่นอนว่า Siam Paragon (สยามพารากอน) จะต้องเป็นชื่อแรกๆ ที่ป๊อปเข้ามาในหัวของทุกคน ด้วยความที่สยามพารากอนรวบรวมร้านค้าชั้นนำ และบรรดาแบรนด์ระดับโลกเอาไว้ ทำให้ศูนย์การค้าแห่งนี้กลายเป็น World-Class Shopping Destination หรือจุดหมายปลายทางที่หนึ่งในใจของทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก
ยิ่งสำหรับสายแฟชั่น ย่อมต้องรู้ดีว่าสยามพารากอนคือหนึ่งในศูนย์การค้าลำดับต้นๆ ของเมืองไทยที่ได้รับเลือกจากเหล่าแบรนด์แฟชั่นลักซ์ชัวรี่ ให้นำเสนอประสบการณ์เอ็กซ์คลูซีฟมากมายนับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นป๊อปอัพแห่งแรกของเอเชีย ไปจนถึงการเปิดตัวคอลเล็กชั่นลิมิเต็ดอิดิชั่นต่างๆ สยามพารากอน ก็มักเป็นที่แรกที่ทางแบรนด์เลือก และเป็นที่แรกที่สายแฟชั่นเดินทางมาอัพเดตเทรนด์
ก่อนจะก้าวเข้าสู่ปี 2023 อย่างเป็นทางการ HELLO! เลยขอชวนทุกคนมาตามติดเทรนด์แฟชั่นที่คาดว่าจะมาแรงในปีหน้า ผ่านการคัดสรรไอเท็มชิ้นไฮไลต์จากแบรนด์ระดับเวิลด์คลาสทั้งหมด 7 ชิ้นด้วยกัน ปีหน้าสไตล์ไหนจะมา ไอเท็มแบบไหนจะปัง เลื่อนลงไปดูกันได้เลย!
1. กระเป๋าไซส์มินิ
ประเดิมเทรนด์แรกกันด้วยของมันต้องมีอย่าง “กระเป๋าไซส์มินิ” ที่อยู่ในกระแสมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ซึ่งเรามั่นใจว่าในปี 2023 กระเป๋าขนาดเล็กจิ๋วจะยังเป็นแฟชั่นไอเท็มที่ได้รับความนิยมอยู่ไม่เสื่อมคลาย การันตีได้จากการที่ Chanel ตัดสินใจปล่อยกระเป๋ารุ่นดังล่าสุดอย่าง Chanel 22 Bag ออกมาในขนาดมินิ รับรองว่าปีหน้าเราคงได้เห็นเซเลบริตี้คนดังถือกระเป๋ารุ่นนี้กันเป็นแถวอย่างแน่นอน
พิกัดร้าน Chanel : ชั้น M สยามพารากอน
2. สีเมทัลลิค (Metallic)
หลังรันเวย์ฤดูกาลหน้า (Spring/Summer 2023) ของหลากหลายแบรนด์แฟชั่นระดับโลกผ่านพ้นไป หนึ่งในคอลเล็กชั่นที่เรียกเสียงชื่นชมจากผู้คนได้มากที่สุดก็คือ Loewe Spring/Summer 2023 Collection
ปฏิเสธไม่ได้เลยเป็นคอลเล็กชั่นที่โดดเด่นด้วยความสร้างสรรค์แหวกกรอบ และซิลูเอตสะดุดตา แต่หากเราจะต้องหยิบหนึ่งเทรนด์ที่ทุกคนจะสวมใส่ขึ้นมาจากรันเวย์ดังกล่าว คงจะเป็น “สีเมทัลลิค” ประกายเงินวับวาว ไม่ว่าลุคเรียบโก้ เท่มีสไตล์ หรือเย้ายวนหรูหรา ก็ล้วนไปได้ดีกับสีเมทัลลิค ใครที่ยังไม่มีไอเท็มสีนี้ในตู้ ต้องรีบไปช้อปที่ Loewe โดยด่วนแล้ว
พิกัดร้าน Loewe : ชั้น M สยามพารากอน
3. แฟชั่นแนวดิบ (Grunge Style)
หากว่าสไตล์การแต่งตัวที่มาแรงที่สุดในปี 2022 คือ Y2K เราก็ขอเดาว่าปี 2023 จะต้องเป็น “กรันจ์ สไตล์” (Grunge Style) อย่างแน่นอน แฟชั่นแนวดิบนี้ถือกำเนิดจากเพลงแนว กรันจ์ ร็อค (Grunge Rock) ผสมผสานสไตล์พังค์เข้ากับการแต่งตัวแบบ Casual Outdoorwear
และบนรันเวย์ล่าสุดของ Bottega Veneta เองก็ได้หยิบสไตล์ดังกล่าวให้กลับมาโลดแล่นอีกครั้ง และหนึ่งในโมเดลที่มาถ่ายทอดลุคก็คือ เคท มอส นางแบบระดับตำนาน ซึ่งเรามั่นใจว่าหญิงสาวกว่าครึ่งที่ได้เห็นเธอสวมกางเกงเอวต่ำทรงหลวม แมตช์กับเสื้อกล้ามด้านใน และคอมพลีตลุคด้วยเสื้อเชิ้ตลายตาราง จะต้องอยากแต่งตัวแบบนี้บ้างอย่างแน่นอน
พิกัดร้าน Bottega Veneta : ชั้น M สยามพารากอน
4. การจับเดรป (Draping)
ไม่ว่าจะกี่ยุคกี่สมัย เทคนิค “การจับเดรป” (Draping) ก็ยังคงสวยคลาสสิกเสมอ ซึ่งคอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน ประจำปี 2023 ของหลากหลายแบรนด์แฟชั่นชั้นนำ ก็ได้หยิบเทคนิคการจับเดรปมาเป็นจุดเด่นของชุดให้เราเห็น ไม่ว่าจะเป็นเดรสแขนยาวไหล่ตั้งของ Saint Laurent ก็ดี หรือเดรสเข้ารูปสีชมพูของ Balenciaga เองก็ดี
พิกัดร้าน Saint Laurent และ Balenciaga : ชั้น M สยามพารากอน
5. เดนิม (Denim)
นอกจากแฟชั่นแนวดิบ (Grunge Style) ที่เราคาดการณ์ว่าจะมาแรงในปี 2023 แล้ว “เดนิม” (Denim) เองก็เป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่กำลังมาแรงตั้งแต่ช่วงปลายปี และคาดว่าคงจะลากยาวไปจนถึงปีหน้าอย่างแน่นอน ซึ่งลุคที่ HELLO! เลิฟและเชื่อว่าจะได้เห็นหลากหลายคนดังสวมใส่ในปีหน้าก็คือ Denim On Denim หรือการแมตช์เสื้อผ้าที่ตัดเย็บจากเดนิมเข้าด้วยกัน อาทิ กางเกงยีนส์และแจ็กเก็ตยีนส์
อีกเกร็ดเล็กน้อยที่หลายคนอาจไม่รู้ว่า เดนิม และ ยีนส์ มีความแตกต่างกันอย่างไร เราจะมาอธิบายให้ฟังกันแบบเข้าใจง่าย คำว่า เดนิม ก็คือเนื้อผ้าชนิดหนึ่งที่เป็นที่รู้จักจากการนำไปตัดเย็บเป็นกางเกงยีนส์
พิกัดร้าน Gucci : ชั้น M สยามพารากอน
6. กางเกงเข้ารูป (Skinny Pants)
เทรนด์ที่ 6 ที่คงจะไม่พูดถึงไม่ได้ นั่นก็คือ “กางเกงเข้ารูป” (Skinny Pants) ที่ปรากฏอยู่บนรันเวย์ของแบรนด์ดังมากมายในฤดูกาลที่ผ่านมา ซึ่งหลายคนอาจคุ้นเคยกันดีในชื่อเรียกอื่นๆ อาทิ กางเกงขาเดฟ อันมีลักษณะกระชับเข้ารูปเห็นสัดส่วนตั้งแต่ช่วงเอว สะโพก ไปจนถึงเรียวขาอย่างชัดเจนนั่นเอง
พิกัดร้าน Prada : ชั้น M สยามพารากอน
7. ชุดไหมพรมซีทรู (See-Through Knit)
สไตล์สุดท้ายมาแรงแซงทุกเทรนด์ “ชุดไหมพรมซีทรู” (See-Through Knit) ตั้งแต่แบรนด์แฟชั่นแถวหน้าของโลก จนถึงแบรนด์เสื้อผ้าไทยดีไซเนอร์ ต่างตบเท้าออกเสื้อผ้าที่ทอขึ้นจากไหมพรมหรือผ้า Knit ด้วยลูกเล่นซีทรู ให้ความรู้สึกเย้ายวนและหรูหราในเวลาเดียวกัน
พิกัดร้าน Prada และ Miu Miu : ชั้น M สยามพารากอน
อย่างที่เห็นว่าไม่ว่าจะกี่แบรนด์ลักซ์ชัวรี่หรือไอเท็มชิ้นเด่นประจำซีซั่น ก็มีรวบรวมไว้อย่างครบครัน ณ Siam Paragon ศูนย์กลางการช้อปปิ้งระดับโลกที่ครองใจทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ถือเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กสำคัญของเมืองไทย ที่ขาช้อปและสายแฟชั่นต้องแวะเวียนมาเช็กอินเสมอ
และในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่แบบนี้ ศูนย์การค้าสยามพารากอนได้มอบโปรโมชั่นสุดพิเศษที่ร่วมกับร้านค้าแบรนด์ดังมากมาย ตั้งแต่วันนี้ – 15 มกราคม 2566 พิเศษเฉพาะสมาชิก VIZ ที่มี ONESIAM SuperApp ช้อปสินค้าจากร้านค้าที่ร่วมรายการครบ 15,000 บาทขึ้นไป รับ 500 VIZ COINS (จำกัด 80 รางวัลต่อวัน)
และช่วงเทศกาลที่จะถึงนี้ ยังมีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับ Boxing Day ตั้งแต่วันที่ 24 – 26 ธันวาคม 2565 และสำหรับ New Year’s Eve ตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2565 – 1 มกราคม 2566 เพียงช้อปครบ 20,000 บาทขึ้นไป รับ 1,000 COINS และบัตรรับประทานอาหารจากร้าน โค ลิมิเต็ด มูลค่า 1,000 บาท (จำกัด 200 รางวัลต่อวัน)
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร 02-610-8000 หรือติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : Siam Paragon และ ONESIAM SuperApp
ข้อมูลและรูปภาพ : Courtesy of the brands