นอกจากเป็นหนึ่งในสมาชิกทาสหมาทาสแมว เฮียฮ้อ สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ซีอีโอ RS Group ยังใช้อินไซต์ตัวเองมาสร้างธุรกิจใหม่ Lifemate (ไลฟ์เมต) ให้ “อาร์เอส” และบอกว่านี่ “เป็นธุรกิจที่ผมทำแล้วมีความสุข” แค่เห็นพรีเซนเทชั่นแผนธุรกิจมีรูปสุนัขตัวโปรด ก็ยิ้มออกแล้ว
– Advertisement –
ที่มาธุรกิจสัตว์เลี้ยง “อาร์เอส”
ปีก่อน “อาร์เอส” ได้ประกาศแผนว่าเตรียมจะทำธุรกิจสัตว์เลี้ยง เรียกว่าแตกไลน์มาไกลจากธุรกิจสื่อ บันเทิง และคอมเมิร์ซในปัจจุบัน ที่มาของธุรกิจเกิดจากความเป็นทาสน้องหมาของ “เฮียฮ้อ” เดิมเคยเลี้ยงสุนัขตอนอายุ 30 แต่ช่วงนั้นทำงานเยอะจึงไม่มีเวลาดูแล
หลังเว้นช่วงไปนานกว่า 20 ปี ในวัย 50 “เฮียฮ้อ” กลับมาเลี้ยงน้องหมาอีกครั้งเมื่อ 6-7 ปีก่อน หลังธุรกิจเริ่มนิ่งแล้วและมีเวลาทุ่มเทดูแลเต็มที่ ปัจจุบันเลี้ยงน้องหมา 3 ตัว คือ Banker พันธุ์เฟรนช์ บลูด็อก (French Bulldog) Tiger พันธุ์อิงลิช บลูด็อก (English Bulldog) และ Player พันธุ์พุดเดิ้ลผสมมอลทีส
วิถีทาสน้องหมาของเฮียฮ้อ เริ่มตั้งแต่เช้าตื่นมาต้องนั่งดูทีวีกับน้องๆ 1 ชั่วโมง พาไปเดินเล่นก่อนไปทำงาน เลิกงานกลับมาก็ต้องเล่นด้วย พาเข้านอนตอน 3 ทุ่ม อาบน้ำให้น้องๆ เอง แต่ละตัวใช้เวลาราว 1 ชั่วโมง ตั้งแต่อาบน้ำ แปรงขน เป่าแห้ง ทายา การใช้เวลาอยู่กับสัตว์เลี้ยง ถือเป็นการพักผ่อนอย่างหนึ่ง คลายเครียดและดึงตัวเองออกจากงาน
ไลฟ์สไตล์วันหยุดของเฮียฮ้อ ไม่ได้ไปช้อปปิ้งซื้อของให้ตัวเอง แต่จะใช้เวลาอยู่ใน Pet Shop เพื่อเลือกซื้ออาหารและสิ่งของให้น้องหมานานนับชั่วโมง สปอยล์สัตว์เลี้ยงทุกอย่าง อยากให้มีสุขภาพที่ดี ขนดี ผิวหนังดี อายุยืนยาว
อินไซต์ที่ได้จากประสบการณ์ทาสน้องหมา สิ่งสำคัญของการดูแลสัตว์เลี้ยงคือ “อาหารที่ดี” เพื่อช่วยดูแลครบทุกส่วนทั้งผิวหนัง เส้นขน กระดูกและข้อ สายตาการมองเห็น และระบบทางเดินอาหาร เมื่อไปช้อปปิ้งอาหารและของใช้ให้น้องหมา ก็ทำให้รู้ว่าธุรกิจที่เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงตลาดใหญ่มาก ทั้งอาหารและของใช้ ทาสหมาทาสแมวยอมจ่ายแพงกว่าของที่ตัวเองใช้ ไปรักษาในโรงพยาบาลแต่ละครั้งค่าใช้จ่ายหลักหมื่นบาท
นี่จึงเป็นจุดตั้งต้นไอเดียทำธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง ที่มาจากประสบการณ์ตรงและอินไซต์ของ “เฮียฮ้อ” ที่ต้องการดูแลสุนัขให้มีสุขภาพดี เพราะคนเลี้ยงน้องหมาน้องแมว จะเลี้ยงเป็นเพื่อน เป็นคนในครอบครัว เป็นเพื่อนคู่ชีวิต และเป็นมากกว่าสัตว์เลี้ยง “อาร์เอส” จึงเปิดธุรกิจใหม่ตั้งชื่อแบรนด์ Lifemate “เพื่อนคู่ชีวิตของคุณ” และเป็นสมาชิก “คนหนึ่ง” ในครอบครัวที่อยากให้แชร์ช่วงเวลาดีๆ ด้วยกันไปให้ได้นานที่สุด
แน่นอนว่าสินค้าของ Lifemate ที่เริ่มจากอาหารสุนัขและแมว บรรดาน้องหมาของเฮียฮ้อ เป็นผู้ทดลองเอง สินค้าที่ผ่านมาได้คืออร่อย หากน้องๆ ไม่กินถือว่าไม่ผ่านเกณฑ์

โอกาสตลาดสัตว์เลี้ยง 4 หมื่นล้าน
มาดูปัจจัยที่ทำให้ “อาร์เอส” เข้าสู่ตลาดธุรกิจอาหารสัตว์
– ตลาดรวมธุรกิจสัตว์เลี้ยงเติบโตทุกปี ปีละ 10% ในปี 2563 มูลค่าอยู่ที่ 40,000 ล้านบาท โดยเป็นสัดส่วนอาหารสัตว์ 45% หรือ 18,000 ล้านบาท
– เทรนด์การเลี้ยงสัตว์เป็นเพื่อน ตอบโจทย์ทั้ง สังคมสูงวัย ครอบครัวไม่มีลูก คนโสด LGBTQ
– ทาสหมาทาสแมวจ่ายไม่อั้น สินค้าดูแลน้องหมาน้องแมว คนเลี้ยงยอมจ่ายในราคาที่แพงกว่าของใช้ส่วนตัว ดูตัวอย่าง เฮียฮ้อ จ่ายแชมพูสุนัขราคาขวดละ 700-800 บาท แพงกว่าแชมพูสระผมที่ตัวเองใช้
– พบว่าค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อตัวของสัตว์เลี้ยงต่อปีอยู่ที่ 14,200 บาท ไม่ว่าจะเป็นค่าอาหาร วิตามิน ขนม อุปกรณ์/ของเล่น วัคซีน
แผนต่อยอดธุรกิจ Lifemate
1. หลังจากอาร์เอส ประกาศแผนเข้าสู่ธุรกิจสัตว์เลี้ยงในปี 2563 ใช้เวลากว่า 1 ปี ในการพัฒนาแบรนด์ Lifemate ภายใต้คอนเซ็ปต์ Holistic Wellness สำหรับเพื่อนคู่ชีวิต เปิดตัวสินค้าแรก “อาหารแห้งชนิดเม็ด” สำหรับสุนัขและแมว
2. ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงที่มีมูลค่า 18,000 ล้านบาท แบ่งเป็นกลุ่มอีโคโนมี่ (แมส) 60% กลุ่มสแตนดาร์ด (กลาง) 30% และกลุ่มพรีเมี่ยม (นำเข้า) 10% แบรนด์ Lifemate วางตำแหน่งสินค้าในกลุ่มสแตนดาร์ดบน คือ สามารถดึงลูกค้าจากกลุ่มแมสที่มีกำลังจ่ายมากขึ้น เป็นอีกตัวเลือกในราคาจับต้องได้ และกลุ่มพรีเมี่ยม
3. Lifemate เปิดตัวด้วยอาหารแห้ง ช่วงไตรมาส 2-3 ปี 2565 จะออกอาหารเปียก อาหารขบเคี้ยว วิตามินสำหรับสัตว์เลี้ยงเพิ่มเติม วางเป้าหมายปีแรกรายได้ 320 ล้านบาท
4. ทำตลาดแบบครบวงจร ทั้งแคมเปญการแจกสินค้าตัวอย่าง การทำโปรโมชั่นต่างๆ สร้างการรับรู้ผ่านสื่อทีวี วิทยุ สื่อนอกบ้าน อีเวนต์ พรีเซ็นเตอร์ การให้สิทธิประโยชน์ผ่านเหรียญ Popcoin เพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภค รวมถึงการทำการตลาดเชิงรุกผ่านช่องทางออนไลน์และกลยุทธ์มิวสิค มาร์เก็ตติ้ง ผ่านบทเพลง Lifemate โดยได้แคทเลิฟเวอร์ อย่าง บอล-จารุลักษณ์ มาเขียนเนื้อร้องและทำนอง และขับร้องโดย นะ-รัตน จากวง Polycat
5. จัดจำหน่ายผ่านร้านเพ็ทช้อป คลินิก และโรงพยาบาลสัตว์ทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางออนไลน์ RS Mall, Shopee และ Lazada
6. ระยะยาวสร้างอีโคซิสเต็ม Lifemate ศึกษาต่อยอดแบรนด์ครอบคลุมทุกโอกาสในธุรกิจสัตว์เลี้ยง เช่น Pet Shop หรือกระทั่งโรงพยาบาลสัตว์เลี้ยง
เฮียฮ้อ บอกว่า “Lifemate เป็นธุรกิจที่ทำแล้วมีความสุข ตั้งใจทำมาดูแลสุขภาพน้องหมาน้องแมว แม้ธุรกิจสัตว์เลี้ยงจะเป็นอีกโอกาสที่เข้ามา แต่สิ่งสำคัญคือตั้งใจส่งสิ่งดีๆ ให้ Dog Lovers และ Cat Lovers รวมทั้งน้องหมาของเฮียเองด้วย”