นางสาวเพชรัตน์ อุทัยสาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อะเบาท์ แพสชั่น กรุ๊ป จำกัด ผู้ดำเนินการและรับสิทธิแฟรนไชส์ “ซับเวย์” ในไทยแต่เพียงผู้เดียว เปิดเผยว่า แม้ช่วง 2-3 ปี ทีผ่านมา ประเทศไทยต้องเจอกับวิกฤตการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 หลายธุรกิจต้องหยุดชะงัก แต่ซับเวย์ยังสามารถสร้างการเติบโตได้ดีทั้งทางด้านยอดขายและการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง โดยปรับกลยุทธ์การขยายช่องทางการขายจากในห้างสรรพสินค้า ในอาคารสำนักงาน แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ มาเปิดในปั้มน้ำมัน โดยเน้นกลุ่มผู้บริโภคในประเทศ
โดยปี 2564 ไทย เป็นประเทศที่มีการขยายสาขาร้านซับเวย์มากที่สุดในโลก สำหรับซับเวย์ เราออกแบบครัวเป็น Open Kitchen ทำให้ผู้บริโภคสามรถมองเห็นขั้นตอนการประกอบแซนวิซ และเมนูต่างๆ รวมทั้งความสดใหม่ ของวัตถุดิบไม่ว่าจะเป็นไก่เทอริยากิ เนื้อสเต็ก ผักสลัด และอื่นๆ ที่สำคัญขนมปังและคุกกี้ ของซับเวย์ ยังอบสดใหม่ ในร้าน ผู้บริโภคสามารถ เลือกอร่อยกับหลากหลายเมนู DIY ได้ด้วยตัวเอง หรืออร่อยไปกับเมนูยอดฮิต ที่ทางซับเวย์คัดสรรมา ด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ในช่วงโควิด ลูกค้าหันมาสั่งอาหารผ่านช่องทางเดลิเวอร์รี่มากขึ้น ทำให้สัดส่วนการจัดจำหน่ายผ่านเดลิเวอร์รี่ของทางซับเวย์เติบโตเร็วเป็นอย่างมาก
นางสาวเพชรัตน์ กล่าวต่อว่า บริษัทประสบความสำเร็จที่ขยายสาขาไปในปั้มน้ำมัน จะยังเพิ่มช่องทางในกลุ่ม Discount Store และมีการเปิดสาขาแบบ Drive Thru ขยายสาขาจากเดิมในกรุงเทพและปริมณฑล ก่อนไปหัวเมืองใหญ่เพิ่มมาก เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต ขอนแก่น นครราชสีมา เน้นการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ ผ่าน Digital Platform Social Media ต่างๆ ที่นิยม เพื่อให้ตรงกับกลุ่มลูกค้าของซับเวย์ รวมทั้งจัดทำ CRM Membership Program เพื่อขยายฐานและรักษากลุ่มลูกค้า ซับเวย์มุ่งเน้นให้ผู้บริโภคได้เกิดการอยากทดลองสินค้า โดยนำเสนอโปรโมชั่นเพื่อดึงดูดกลุ่มผู้บรโภคให้เกิดการทดลองสินค้า พร้อมทั้งขยายฐานกลุ่มลูกค้าผู้ที่ชื่นชอบเมนูอาหารเช้า เริ่มราคาชิ้นละ 59 บาท และมีกว่า 20 เมนูให้เลือก
“ เรามีแผนขยายร้าน ซับเวย์ เพิ่มอีก 800 สาขาทั่วประเทศ ภายใน 10 ปี และตั้งเป้ารายได้กว่า 9,000 ล้านบาท สำหรับปีนี้จะเปิดร้านซับเวย์เพิ่มจากเดิม 140 สาขา เป็น 200 สาขา ในแนวคิด Eat Fresh สดใหม่ทุกวัน รวมถึงขยาย ไดร์ฟทรูหรือตู้ Kiosk” นางสาวเพชรัตน์ กล่าว
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก
Line @Matichon ได้ที่นี่