นายเฮงก์ โจฮัน คิกส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสูงสุด กล่าวว่า ในช่วงปี 2565 นี้ บี-ควิก มีการลงทุนในระบบต่างๆ มากมาย เพื่อพัฒนาการบริการให้สอดคล้องกับยุคดิจิทัล และให้เป็นมิตรกับผู้บริโภคมากที่สุด โปรแกรมหลักที่ บี-ควิก มีการลงทุน คือ โปรแกรมการจัดเก็บข้อมูลและใช้ข้อมูลในการบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า พร้อมทั้งมีระบบการสมัครสมาชิก ที่มีชื่อว่า “B-Member” ซึ่งเป็นโปรแกรมในการสะสมคะแนนจากยอดใช้จ่าย โดยสามารถนำเอาคะแนนนั้นมาแลกรับสิทธิประโยชน์ จาก บี-ควิก และพันธมิตรทางธุรกิจต่างๆ อีกมากมาย
เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด
รวมไปถึงได้มีการลงทุนพัฒนาระบบ Software ที่ใช้ในการทำงานหลักภายในสาขา เพื่อให้พนักงานสามารถที่จะทำงานได้ง่ายขึ้น และสามารถที่จะเชื่อมต่อกับระบบ B-Member นี้ได้ โดย บี-ควิก มองในเรื่องของความยั่งยืน (Sustainability) ในการทำธุรกิจด้วยเช่นกัน หาก Software นี้เสร็จสมบูรณ์ จะทำให้ช่วยลดในเรื่องของการใช้กระดาษได้มากขึ้นอีกกว่า 50% พนักงานไม่จำเป็นต้องพิมพ์เอกสารออกมาเพื่อให้ลูกค้าอ่านรายละเอียด พนักงานสามารถเสนอขายสินค้าผ่าน Tablet โดยไม่จำเป็นต้องใช้กระดาษอีกต่อไป
รวมไปถึงขั้นตอนการอนุมัติของลูกค้า การเบิกสินค้า การปิดการขายในระบบ สามารถทำได้ผ่าน Software นี้เป็นหลัก นอกจากจะเป็นการช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังเป็นการสร้างความสะดวกสบายในการเข้ารับบริการให้กับลูกค้าอีกด้วย
ในแง่ของพนักงาน ซึ่งเป็นหัวใจหลักของการทำงานในธุรกิจศูนย์บริการรถยนต์ บี-ควิก ให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพของพนักงานเป็นอย่างมาก เพื่อให้พนักงานสามารถทำงานและให้บริการลูกค้าได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยบี-ควิก มีการลงทุนสร้าง Training Center ศูนย์ฝึกอบรมที่พัฒนาหลักสูตรให้เหมาะกับธุรกิจศูนย์บริการรถยนต์ และมีการนำเอาระบบ e-Learning เข้ามาร่วมใช้ในการฝึกอบรมพนักงานด้วยเช่นกัน เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้พนักงาน ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ก็สามารถที่จะอบรม หรือเข้าถึงบทเรียนของแต่ละคนได้ โดยมีการพัฒนาหลักสูตรการอบรมให้กับพนักงานอยู่ตลอดทั้งปี
ด้านของการจัดกิจกรรมทางการตลาดนั้น บี-ควิก ยังคงมีการจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น การจัดงานเปิดสาขาใหม่ (Grand Opening) ด้วยโปรโมชั่นที่คุ้มค่า หรือแม้กระทั่งการจัดงาน B-Quik Expo ที่ได้กลายเป็นงานประจำปีของ บี-ควิก ที่ลูกค้าหลายๆ ท่านรอคอย และสอบถามเข้ามาตลอดเวลา รวมถึงโปรโมชั่นประจำเดือน ที่ บี-ควิก จัดให้ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง
ในด้านการขยายสาขา บี-ควิก ยังคงลงทุนในการขยายสาขาใหม่ทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ที่กำลังดำเนินการขยายสาขาที่ 3 เพิ่มเติม หรือแม้กระทั่งในประเทศอินโดนีเซีย ก็มีการขยายสาขาอยู่อย่างต่อเนื่อง
สำหรับในประเทศไทยเอง บี-ควิก คาดว่าจะมีสาขาครบ 200 สาขาภายในไตรมาสที่ 4 ของปี 2565 นี้
“ในปี 2565 นี้ ย่างก้าวใหม่ของ บี-ควิก คือการเข้าสู่วงการมอเตอร์สปอร์ต อย่างเต็มตัว ด้วยการเป็นผู้สนับสนุนหลักของรายการแข่งขันรถที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย อย่าง Thailand Super Series โดยใช้ชื่อรายการแข่งขันว่า B-Quik Thailand Super Series”