15 พ.ค. 2565 | 17:22:18
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 15 พ.ค.65 ที่สำนักงานทนายรัชพล ศิริสาคร ถนนประชาราษฎร์ ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี น.ส.ปานปรียา หรือเฟิร์น อายุ 26 ปี ชาวจังหวัดนนทบุรี น.ส.สุพรรณี หรือผิง อายุ 29 ปี ชาวจังหวัดเลย และ น.ส.สาริศา หรือจ๋อม อายุ 28 ปี ชาวจังหวัดลพบุรี ตัวแทนผู้เสียหายจากการจ้างออแกไนซ์แห่งหนึ่ง โดยได้มีการโอนเงินค่าจัดงานแล้ว แต่ไม่สามารถติดต่อได้อีก ทำให้ผู้เสียต้องจ้างออแกไนซ์อื่นมาจัดงานให้แทน ทำให้เสียเงินค่าจัดงาน 2 รอบ ซึ่งมีผู้เสียหายรวมแล้วจำนวนกว่า 30 ราย จึงได้รวบรวมข้อมูลเพื่อส่งตัวแทนเข้าร้องเรียนต่อทนายรัชพล ศิริสาคร พร้อมทั้งขอคำปรึกษาทางด้านกฏหมาย เพื่อดำเนินคดีกับออร์แกไนซ์รายนี้
จากการสอบถาม น.ส.ปานปรียา อายุ 26 ปี ชาวจังหวัดนนทบุรี เปิดเผยว่า ตนและแฟนหนุ่มเตรียมจัดงานแต่งงานในวันที่ 1 พ.ค.65 พอช่วงเดือน ก.พ.65 ตนจึงได้ค้นหาดูออแกไนซ์ที่รับจัดงานในเฟซบุ๊ก พบว่าออแกไนซ์แห่งนี้ มีการรีวิวการจัดงานในหลายๆ กลุ่มในเฟซบุ๊ก ตนจึงได้ติดต่อสอบถามไป ถึงรายละเอียดและโปรโมชั่นการจัดงานราคา 25,000 บาท ว่ามีอะไรบ้าง จากนั้นได้ให้เข้ามาดูสถานที่จัดงานและที่บ้านจัดงาน ซึ่งได้มีการแจ้งยอดค่าใช้จ่ายในส่วนอื่นๆ เพิ่มเติม ตนก็เห็นว่าเขาสนใจรายละเอียดการจัดงานดีจึงได้เหมาให้เขารับทั้งงานเช้าและงานเย็นโดยโอนเงินค่าจัดงานเพิ่มไปให้ รวมยอดทั้งหมด 51,400 บาท ในระหว่างนั้นยังมีการติดต่อสอบถามเรื่องรายละเอียดการจัดงานอยู่ตลอดทำให้ตนเชื่อมั่น จนกระทั่งตนมาเห็นว่ามีโพสต์ประจานในโซเชียลว่ามีการโกงค่าจัดงาน ตนจึงได้โทรไปสอบถาม โดยระบุว่าตนเห็นโพสต์แล้ว แต่ก็จะจ้างเขาให้เขาจัดงานต่อ แต่หลังจากที่รู้ว่าตนเห็นโพสต์ประจาน ก็ไม่สามารถติดต่อเขาได้อีกเลย ต่อมาพิธีกรที่จะต้องมาดำเนินในงานแต่งของตนโทรติดต่อมาสอบถามว่ายังจัดงานอยู่ไหม ตนจึงนัดเจอและสอบถามข้อมูล จึงได้รู้ว่างานของตนมีการส่งต่อให้ออร์แกไนซ์อื่นแถมยังซ้ำซ้อนกันงานอีกหนึ่งงาน และก็ใกล้วันจัดงานเข้าไปทุกที ตนจึงได้คุยกับเจ้าของงานที่ซ้ำซ้อนกับตน ซึ่งเจอปัญหาแบบเดียวกันคือติดต่อไม่ได้ ตนก็ต้องหาออแกไนซ์ใหม่เพื่อจัดงานเสียค่าใช้จ่ายกับออร์แกไนซ์ใหม่อีก 80,000 กว่าบาท
น.ส.ปานปรียา กล่าวต่อว่า เรื่องนี้ตนจะแจ้งความเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ตนทั้งสงสารและให้โอกาสแล้ว ซึ่งตนรู้ว่าเขาทำแบบนี้กับคนอื่นๆ อีกหลายๆ คน มันทำให้ตนรู้สึกว่าทำไมถึงหากินแบบนี้ ตนไม่พอใจอละโกรธมาก ทำกับคนที่กำลังจะเดินหน้าสร้างครอบครัวให้มีความสุขได้อย่างไร
น.ส.สุพรรณี ผู้เสียหายอีกราย กล่าวว่า ตนเจอออแกไนซ์ในเฟซบุ๊ก ซึ่งตนก็ใช้เวลาในการศึกษาเรื่องการจัดงานและตรวจสอบเพจหลายๆด้าน แต่พบว่าออแกไนซ์รายนี้ มีการรีวิวไว้ดี ตนจึงตัดสินใจทักไปหาเขาและส่วนใหญ่รายละเอียดในการจัดงานจนจะใช้โทรศัพท์คุยเพราะยุ่งกับงานที่ทำประจำ เป็นการจองแพคเกจจัดงานไม่ใหญ่มากเพราะเป็นช่วงสถานการณ์โควิด ทางออแกไนซ์มีการขอเงินมัดจำ และเสนอพิธีการต่างๆให้ เช่นวงดนตรีการตรวจ atk และเรื่องอาหาร ซึ่งเขาบอกว่ามีการดิวกับบริษัทเหล่านั้นอยู่แล้ว ทำให้ได้ราคาที่ถูกกว่า แต่ต้องขอมัดจำ 70% ต่อมาทางออแกไนซ์ได้เหตุผลต่างๆ นานา และขอมัดจำเพิ่มเป็น 100% เพราะบริษัทต้นทางเก็บเงินเขาเต็ม มีการใช้กลอุบายทุกอย่างเพื่อจะเอาใจ นอกจากนี้ยังแจ้งกับทางตนว่าหลังจากจัดงานเสร็จส่วนไหนที่ไม่ได้ใช้จะมีการคืนเงินให้ ตนจึงได้โอนเงินค่าจองจัดงานทั้งหมด 75,200 บาท ซึ่งตนก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรเพราะยังไงงานก็ต้องจัดอยู่แล้ว ตนไว้ใจเนื่องจากทำตัวสนิทสนม คอยโทรถามข่าวและแจ้งรายละเอียดอยู่ตลอดเวลา
น.ส.ผิง กล่าวต่อว่า ต่อมาทางออแกไนซ์ได้โทรมาแจ้งว่า ในเฟซบุ๊ก มีการรีวิวเรื่องงานแต่งงานล่ม โดยงานแต่งนั้นออแกไนซ์ รายนี้ ทางออแกไนซ์ พยายามอธิบายและยืนยันว่าเขาไม่ได้เป็นคนทำงานล่ม จากนั้นก็ส่งรีวิวในโซเชียลมาให้ตนดู ตนไม่เคยทราบเรื่องราวเหล่านี้และก็สงสารว่าทำไมลูกค้าถึงไม่ให้โอกาส เรื่องมาแตกก็เพราะว่าพิธีกรที่เขาจ้างให้มาจากงานของตนโทรมาบอกกับตนว่าไปต่อไม่ได้แล้ว เพราะคนที่จัดงานแต่งหลายคนถูกโกง ต้นก็ตกใจ พยายามติดต่อ แต่ก็ติดต่อไม่ได้ ทวงเงินคืนก็ไม่ได้ ซึ่งงานแต่งงานของตนจะจัดวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ตนและแฟนต้องเลื่อนการจัดงานออกไป อยากฝากเตือนคนที่จะจัดงานแต่งงาน แค่ดูรีวิว ในโซเชียลยังคงไม่พอ คงต้องตรวจสอบมากกว่านี้ เพราะโปรไฟล์เขาอาจสร้างไว้ได้ เราเองจะโดนหักหลังที่หลัง ซึ่งตนไม่รู้เลยว่ารูปงานต่างๆที่เขาเอามาโพสต์เป็นของคนอื่น
น.ส.สาริศา ผู้เสียหายอีกราย กล่าวว่า สำหรับงานแต่งงานของตนยังไม่ถึงวันแต่ง เป็นช่วงอยู่ระหว่างเตรียมงานจนได้เข้าไปติดตามในกลุ่มแต่งงานที่เขารวมกัน มีการโพสต์ในกลุ่มทุกวัน ตนใช้เวลาดูลักษณะงานอยู่ประมาณ 2 เดือน จึงได้ทักเข้าไปหา เนื่องจากเห็นราคาและโปรไฟล์ที่จัด หลังจากทักไปเขาได้แจ้งโปรโมชั่นมา ตนใช้เวลาตัดสินใจประมาณ 1 สัปดาห์ จึงได้จองไปตามโปรโมชั่นโดยโอนเงินมัดจำงวดแรก 10,000 บาท แต่ก็ยังไม่ได้มีการทำสัญญาและมีการขอเงินมัดจำเพิ่ม อีก 5,000 บาท ซึ่งมีการคุยรายละเอียดเรื่องวงดนตรีและพิธีกรที่ต้องแยกค่าใช้จ่ายตนจึงโอนค่าพิธีกรไปอีก 5,000 บาท รวมแล้วจ่ายไป 23,600 บาท หลังจากนั้นตนมาเห็นว่ามีเจ้าสาวรายหนึ่งเข้ามารีวิวเรื่องราวยาวมาก ตนจึงตัดสินใจทักไปหาพิธิกรที่จะมาดำเนินงานให้ตน ซึ่งพิธีกรแจ้งว่าไม่ได้มีการล็อคคิวพิธีกรไว้ในงานตน ตนจึงทักกลับไปหาออแกไนซ์เรื่องพิธีกร ซึ่งก็ได้รับคำยืนยันว่าจัดการเรียบร้อยแล้ว ตนจึงแคปหน้าจอที่คุยกับพิธีกรให้ออแกไนซ์ ดู ก็มีการบอกว่าจะกลับไปคุยกับพิธีกรก่อน น่าจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน แต่ตนก็ยืนยันกับว่าไม่ต้องคุยเพราะตนรู้ว่าโกหก จะขอยกเลิกงานและขอเงินคืน อยากเปลี่ยนออแกไนซ์ใหม่ จึงได้มีการนัดคืนเงินในเดือนเมษายนที่ผ่านมา แต่จนถึงวันนี้ยังไม่ได้เงินคืน ให้ทนายติดต่อไป ก็ติดต่อไม่ได้ ตนเองรู้สึกโกรธมากเพราะการจัดงานแต่งในชีวิตคนเรามีครั้งเดียวจึงอยากให้งานออกมาดีด้วยราคาและลักษณะงานเล็กๆ ซึ่งก็เข้ากับช่วงสถานการณ์โควิด ยอดเงินของตนอาจจะไม่มากแต่อยากเอาเรื่องเขาให้ถึงที่สุด ไม่อยากให้เขาไปทำกับคนอื่นอีกไม่ใช่ทุกคนจะมีเงินสำรองมาจ่ายซ้ำ อยากฝากเตือนคนที่จัดงานในลักษณะแบบนี้ ขอให้ตรวจสอบให้ดีเช็กโซเชียล เช็กเครดิตบูโร ว่าเขามีประวัติอะไรมาบ้าง การทำธุรกรรมต้องมีการตรวจสอบให้รอบคอบ อย่าดูแค่รีวิวอย่างเดียว
เบื้องต้นทนายรัชพล ศิริสาคร ได้รับเรื่องร้องเรียนไว้ และจะทำการติดต่อประสานงานกับกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บช.สอท. โดยแนะนำให้ผู้เสียหายทั้ง 31 ราย ทำการแจ้งความเข้าไปในเพจ Thai Police Online เบื้องต้นแล้ว สำหรับออแกไนซ์รายนี้ ที่นำภาพของบุคคลอื่นมาใช้แอบอ้างเป็นผลงานของตนเข้าข่ายเป็นเรื่องฉ้อโกงประชาชนและผิด พรบ.คอมพิวเตอร์ หลังจากแจ้งความแล้วจะให้เวลาเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานก่อน ส่วนความคืบหน้าคดีหลังจากนี้จะมีการประสานกับทาง บช.สอท. เพื่อติดตามความคืบหน้าต่อไป
Share this: