“เคทีซี” ประกาศพร้อมเป็นแพลตฟอร์มประชาสัมพันธ์ ติดอาวุธธุรกิจท่องเที่ยว ตอบโจทย์กระแสการท่องเที่ยวชุมชน เผยเตรียมร่วมมือแหล่งท่องเที่ยวชุมชน หนุนรายย่อยเติบโตยั่งยืน ด้านสมาคมการค้าธุรกิจที่พักบูติกฯ แจงภาพรวมยังขยายตัวเล็กน้อย แนะผู้ประกอบการปรับตัวจับตลาดหลากหลาย
นางสาวเจนจิต ลัดพลี ผู้อำนวยการการตลาดเพื่อการท่องเที่ยวและสันทนาการ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า KTC เตรียมร่วมมือกับแหล่งท่องเที่ยวระดับชุมชน เพื่อออกผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวทางเลือกให้กับนักเดินทาง ตอบโจทย์กระแสการท่องเที่ยวชุมชน และช่วยให้พันธมิตรรายย่อยสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน
- M-Flow ทางด่วนจ่ายอัตโนมัติ ประชาชนวิจารณ์ยับ หลังปรับหนัก 10 เท่า
- รื้อระบบบำนาญประเทศไทย รับมือ “เศรษฐกิจ-สังคม” สูงวัย
- เหล้าเบียร์ขึ้นราคายกแผง มีนาคม “คอทองแดง” กระอัก
“KTC อยากช่วยติดอาวุธให้ผู้ประกอบการ โดยทำหน้าที่เป็นคู่คิดด้านการตลาด และใช้ KTC เป็น touch point เปิดพื้นที่ในการประชาสัมพันธ์” นางสาวเจนจิตกล่าว
โดยในปีที่ผ่านมาทางเคทีซีได้ทำแพลตฟอร์ม “หา | เรื่อง | เที่ยว” เพื่อเป็นแพลตฟอร์มข่าวประชาสัมพันธ์แพ็กเกจ โปรโมชั่นด้านการท่องเที่ยว และในช่วงเดือนมีนาคมนี้ ทาง KTC จะมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อเพิ่มตัวเลือกด้านการท่องเที่ยวให้กับลูกค้าอีกทางหนึ่งด้วย
ด้านนายอติรัตน์ ด่านภัทรวรวัฒน์ เจ้าของแพ 500 ไร่ (สุราษฎร์ธานี) และนายกสมาคมการค้าธุรกิจที่พักบูติกไทยกล่าวว่า ในช่วงการระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมา ตนในฐานะผู้ประกอบการได้ปรับตัวเพื่อรับมือกับสถานการณ์ โดยสร้างความร่วมมือกับพนักงาน วางแผนการลดต้นทุน เพิ่มช่องทางหารายได้ รวมถึงการประเมินสถานการณ์เป็นระยะ
ขณะที่สถานการณ์ที่พักบูติคในช่วงที่ผ่านมา พบว่ามีการเติบโตมากขึ้น เช่น จังหวัดน่านเป็นจังหวัดรองที่มีอัตราการเข้าพักขยายตัวเพิ่มขึ้นในช่วงหน้าฝน ขณะที่ภาคใต้เติบโตเล็กน้อย ยกเว้นผู้ประกอบการที่มีอัตลักษณ์ชัดเจน และเทรนด์การเดินทางในภาคกลาง นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไปในยังสถานที่ใกล้ ๆ เช่น จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นครนายก กาญจนบุรี เป็นต้น
“ส่วนการปรับตัวในอนาคตนั้น ที่พักบูติคอาจต้องปรับมุมมองต่อตลาดใหม่ โดยไม่พึ่งพาตลาดใดตลาดหนึ่งมากเกินไป เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยง เช่น พร้อมต้อนรับแขกแบบครอบครัว แขกที่มาเป็นคู่ กลุ่มเพื่อน เป็นต้น” นายอติรัตน์
และว่า สำหรับการท่องเที่ยวเชิงชุมชน อาจเลือกนำเสนอเรื่องราวที่สืบทอดความเป็นชุมชนได้อย่างชัดเจน และเชื่อมั่นในความแตกต่างที่มี พร้อมกับการรวมกลุ่ม รักษาคุณภาพ และคอยประเมินมาตรฐาน ซึ่งแนวทางเหล่านี้เชื่อว่าจะสามารถทำให้ชุมชนเติบโตได้อย่างยั่งยืน
นายอติรัตน์กล่าวเสริมด้วยว่า ในช่วงไตรมาส 3 นี้ ตนเตรียมประชาสัมพันธ์เชิงรุกมากขึ้น โดยชูจุดเด่นว่าในช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงเวลาที่น่าท่องเที่ยวที่สุดของจังหวัดสุราษฎร์ธานี
นอกจากนี้ยังมีแผนเตรียมประชาสัมพันธ์ โดยใช้ blogger, ผู้สื่อข่าวต่างประเทศ เพื่อสื่อสารกับทั้งตลาดต่างประเทศและตลาดในประเทศในไตรมาสที่ 4 เพื่อให้เกิดกระแสการเดินทางท่องเที่ยวต่อเนื่อง
ไม่พลาดข่าวสำคัญ เจาะลึกทุกประเด็น
เพิ่มเราเป็นเพื่อนทาง @prachachat