นายปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าทั่วไป AIS กล่าวว่า AIS ได้จับมือกับธนาคารกรุงไทย ตั้งแต่ปี 2564 พัฒนาโครงการพอยท์เพย์ ที่เชื่อมต่อให้ร้านค้าถุงเงินที่อยู่ในระบบของธนาคารกรุงไทย ซึ่งเป็นร้านค้ารายย่อย ร้านค้าริมทาง ร้านอาหาร ร้านค้าในตลาด ซึ่งมีมากกว่า 400,000 ร้าน มาเป็นแหล่งที่ลูกค้าเอไอเอส สามารถนำคะแนนสะสม AIS Points มาใช้ชำระค่าสินค้าได้ เป็นการสนับสนุนให้ทั้งร้านค้า และลูกค้าเอไอเอสไปพร้อมๆ กันช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายประจำวัน โดยเฉพาะหมวดอาหาร อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นการจับจ่ายให้เกิดรายได้หมุนเวียนกับบรรดาร้านค้าถุงเงินทั่วประเทศ
“ความตั้งใจหลักของ AIS คือดูแลลูกค้าทั้ง 46.8 ล้านราย นอกเหนือจากบริการคือสิทธิประโยชน์ในการดูแลลูกค้า ที่ผ่านมา AIS จับมือกับพันธมิตรมากมายเพื่อนำสิทธิประโยชน์มาให้ลูกค้า แต่ยอมรับว่าหลายครั้งสิทธิประโยชน์กระจุกตัวในเมือง เราจึงมองหาสิ่งที่สามารถได้ประโยชน์ในวงกว้าง ซึ่งการจับมือกับธนาคารกรุงไทยผ่านแอปพลิเคชั่นเป๋าตังนั้นสามารถเข้าถึงผู้คนได้กว้างมาก ช่วยให้ลูกค้าทั่วประเทศสามารถเข้าถึงสิทธิประโยชน์ในโครงการพอยท์เพย์ได้ทั้งหมด
นายปรัธนา กล่าวว่า ตั้งแต่เริ่มมีการทดสอบให้บริการพอยท์เพย์ไปเมื่อปีที่แล้ว ผลตอบรับถือว่าดีมาก มีคนใช้พอยท์ไปแล้ว 100 ล้านพอยท์ มูลค่า 50 ล้านบาท โดยสิทธิประโยชน์นี้จะครอบคลุมไปถึงพันธมิตรต่างๆของ AIS ด้วย เช่นพอยท์บัตรเครดิต หรือพอยท์ใดๆที่สามารถแปลงเป็น AIS Points จะสามารถนำมาใช้งานได้ทั้งหมด
วิธีใช้งานเพียงแค่ร้านค้าเปิดแอปถุงเงิน เข้าเมนู AIS แล้วสร้าง QR CODE ตามราคาสินค้า ฝั่งผู้รับเปิดแอป my AIS แล้วใช้ฟังก์ชั่นแสกน ก็สามารถชำระเงินด้วยพอยท์ได้ทันที ส่วนร้านค้าจะได้รับเงินโอนเข้าบัญชีในวันรุ่งขึ้น ฝั่งผู้ใช้จำกัดการใช้งานหมายเลขละ 1,000 พอยท์ (มูลค่า 500 บาท) ต่อร้านค้า สามารถใช้กี่ร้านค้าก็ได้
“เราเชื่อว่าพอยท์เพย์จะเป็นดิจิทัลแพลตฟอร์มที่สนับสนุนการเติบโตให้ระบบเศรษฐกิจ และช่วยให้เราขยายเข้าไปใกล้ผู้ใช้มากขึ้น เป้าหมายของเราในปีนี้คือการเพิ่มการใช้ AIS Points ให้มากขึ้น 2-3 เท่า และขยายจำนวนร้านค้าในระบบถุงเงินที่รับ AIS Points จาก 400,000 ร้านค้า เป็น 1,000,000 ร้านค้า โดยจะมีการทำการตลาดตามความเหมาะสมโดยใช้งบประมาณเพิ่มอีก 1,000 ล้านบาทต่อปี”
นายธวัชชัย ชีวานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริการสายงาน สายงานบริหารจัดการทางการเงินเพื่อธุรกิจ ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า โครงการพอยท์เพย์ เป็นการใช้จุดแข็งของธนาคารกรุงไทยด้านเทคโนโลยี ในการพัฒนาดิจิทัลแพลตฟอร์มและช่องทางการรับชำระค่าสินค้าและค่าบริการมาต่อยอดให้ร้านค้าถุงเงิน รับชำระเงินผ่านช่องทางดิจิทัลได้คล่องตัวขึ้น โดยสามารถใช้คะแนนสะสมของพันธมิตรชำระแทนเงินสดได้ ผนวกกับความแข็งแกร่งของ AIS ในฐานะผู้นำตลาดธุรกิจโทรคมนาคม มอบสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าให้สามารถใช้เอไอเอส พอยท์ 2 คะแนน แทนเงินสดได้ 1 บาท แลกส่วนลดเงินสดในการซื้อสินค้าและบริการจากร้านค้าถุงเงินที่เข้าร่วมโครงการแล้วจำนวน 400,000 ร้านค้า จาก 1.6 ล้าน ร้านค้าทั่วประเทศ
“ในอนาคตธนาคารกรุงไทยมีแผนขยายประเภทของร้านค้าถุงเงินให้หลากหลายขึ้น เช่น ร้านสะดวกซื้อ ที่พัก โรงแรม การขนส่ง เพื่อให้รองรับและครอบคลุมการใช้งานของลูกค้าได้ทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะเปิดให้แพลตฟอร์มพอยท์เพย์สามารถเชื่อมกับบริการอื่นๆบนแอปฯเป๋าตังด้วย เช่น การซื้อขายพันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้ ทองคำ”
“สำหรับแพลตฟอร์มพอยท์เพย์นั้น ธนาคารกรุงไทย จะมีการทำงานร่วมกับแบรนด์อื่นๆด้วย ไม่ได้เอ็กซ์คลูซีฟกับ AIS รายเดียว แต่ความร่วมมือกับ AIS เป็นการเริ่มต้นที่สำคัญ เพราะร่วมพัฒนามาตั้งแต่ต้น หลังจากนี้ก็จะมีการต่อยอดออกไปในหลายๆรูปแบบ ปัจจุบัน ร้านค้าถุงเงินมีมากกว่า 1.6 ล้านร้านค้า มี 800,000 ร้านเป็นอาหารเครื่องดื่ม และในจำนวนนี้มี 400,000 ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ AIS”
ด้านตัวแทนร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ กล่าวว่า “การเข้าร่วมเป็นร้านค้าถุงเงินในโครงการพอยท์เพย์ทำให้ร้านสามารถทำรายได้เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก เป็นอีกตัวช่วยสำหรับร้านเล็กๆ ให้เข้าถึงเทคโนโลยีที่การจ่ายเงินที่ลูกค้าคุ้นเคย เพิ่มโอกาสให้ร้านสามารถขายของได้ง่ายขึ้น เพราะการมีโครงการพอยท์เพย์เข้ามา เหมือนช่วยลูกค้าให้มีทางเลือก ทั้งส่วนที่อยากใช้คะแนนเป็นส่วนลด หรือจะใช้จ่ายทั้งหมด เหมือนกับการมีโปรโมชั่นดีๆ ให้ลูกค้า ซึ่งถือว่าช่วยได้มาก เพราะแม้จะจบโครงการคนละครึ่งไป แต่ก็ยังมีพอยท์เพย์เข้ามาเพิ่มเติมก็เป็นอีกตัวช่วยให้ขายของได้ดีขึ้น”
สำหรับร้านค้าที่สนใจเข้าร่วมโครงการพอยท์เพย์ สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.ais.th/พอยท์ช่วยจ่าย และ https://krungthai.com/th/content/personal/pointpay