วันศุกร์ ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2565, 06.00 น.
ทิพาภรณ์ โชควัฒนา
บริษัทเค้กแอนด์เบเกอรี่ จำกัด (Cake and Bakery Limited : C&B) ผู้นำในการผลิตเค้กและจำหน่ายเบเกอรี่ ที่มีคุณภาพมาตรฐานการผลิตระดับสูงหนึ่งในบริษัทเครือสหพัฒน์เปิดตัวริชเชสเบเกอรี่ (Richesse Bakery) ร้านเบเกอรี่อบสดหอมกรุ่นจากเตาทุกวันอร่อย ปราศจากไขมันทรานส์ที่มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ “เบเกอรี่ในสวนสไตล์อังกฤษ (The Bakery in English Garden)” ดื่มด่ำในบรรยากาศที่สวยงามสไตล์อังกฤษให้คุณได้จิบชาอย่างละเมียดเคล้าเบเกอรี่ปรุงใหม่ที่แสนอร่อยอบสดใหม่ทุกคำ เพื่อให้ผู้มาเยือนเกิดความอิ่มเอิบและสุขใจ
นางทิพาภรณ์ โชควัฒนา รองประธานกรรมการ บริษัทเค้กแอนด์เบเกอรี่ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเค้ก แอนด์เบเกอรี่ จำกัด บริษัทในเครือของสหพัฒน์ เริ่มดำเนินกิจการในปีค.ศ.1990 (พ.ศ.2533)ภายใต้ชื่อบริษัทไทยฟูจิยา (Thai Fujiya Co.Ltd) โดยการร่วมทุนกับบริษัทฟูจิยาซึ่งเป็นบริษัทผลิตเค้กและเบเกอรี่อันดับต้นของประเทศญี่ปุ่นเพื่อทำการผลิตและจัดจำหน่ายเบเกอรี่ระดับมาตรฐานญี่ปุ่นเพื่อให้บริการผลิตสินค้าเค้กและเบเกอรี่ (OEM service) ให้แบรนด์ชั้นนำต่างๆ และร้านเบเกอรี่อื่นๆ อย่างกว้างขวาง ต่อมาในปีค.ศ.2009 (พ.ศ.2552) ได้เปลี่ยนชื่อเป็นบริษัทเค้กแอนด์เบเกอรี่ จำกัด และเปิดแบรนด์สินค้า “ริชเชส-Richesse”สู่ตลาดเมืองไทย จนถึงปัจจุบัน
ริชเชสเบเกอรี่ (Richesse Bakery) เป็นร้านเบเกอรี่อบสดหอมกรุ่นจากเตาทุกวันที่เน้นคุณภาพคู่ความอร่อยด้วยคุณภาพระดับเบเกอรี่สากล พร้อมวัตถุดิบเกรดพรีเมียมปราศจากไขมันทรานส์ ซึ่งเป็นไขมันอิ่มตัวที่เป็นตัวทำลายสุขภาพจุดเด่นอยู่ที่เมนูแสนอร่อย 4 กลุ่ม ประกอบไปด้วย กลุ่มสินค้าเบเกอรี่, กลุ่มเค้กชนิดต่างๆ, กลุ่มสินค้าเบเกอรี่ อาทิ คุ้กกี้, พัฟ, พาย, ครัวซองท์, แซนด์วิช และกลุ่มช็อกโกแลต Compound Chocolate, Chocolate Coating, Ice Cream Coatings, Chocolate decorations ที่ถูกเนรมิตในรูปแบบ “เบเกอรี่ในสวนสไตล์อังกฤษ”ที่พร้อมจะให้คุณดื่มด่ำในบรรยากาศที่สวยงามสไตล์อังกฤษจิบชาอย่างละเมียด เคล้าเบเกอรี่ปรุงสดใหม่แสนอร่อยเพื่อให้คุณเกิดความอิ่มเอิบและความปีติมีความสุขทุกครั้งที่มาเยือน
สำหรับ ริชเชสเบเกอรี่ เราตั้งใจรังสรรค์มาเพื่อเอาใจสายหวานกลุ่มคนทำงานระดับกลางถึงสูงที่ต้องการลิ้มรสขนมอร่อยๆ พร้อมบรรยากาศดีๆ ตลอดจนกลุ่มวัยรุ่นที่มองหาเบเกอรี่ที่มีคุณค่าไม่ซ้ำแบบใครในสไตล์ “คาเฟ่ลับ” ที่ชื่นชอบรับประทานขนมแสนอร่อย ในบรรยากาศที่ไม่เหมือนใครด้วยคอนเซ็ปต์ร้านเบเกอรี่ในสวนสไตล์อังกฤษ
จุดเด่นของร้านอยู่ที่สินค้าที่ล้วนแล้วแต่เป็นไฮไลท์ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น “London Lover” Signature Set ที่รวมเซตชากุหลาบ ทานคู่กับ Rose Cup Cake และมาการองเรดเวลเวท(Red Velvet Macaron) ตลอดจนสินค้ากลุ่มเบเกอรี่ ซึ่งมีสินค้าไฮไลท์ 3 กลุ่ม คือ Croffle : ครัฟเฟิล (Croissant + Waffle) เมนูใหม่สุดฮิตที่นำแป้งครัวซองท์มาอบในสไตล์วาฟเฟิลจึงได้ความ “กรอบนอกนุ่มใน” ที่ติดลิ้นอร่อยๆ ไปทั้งวันมี 3 toppings ให้เลือกคือหน้า Cheese หอมๆ,หน้าคาราเมล หรือโรยน้ำตาล ตามมาด้วย Egg Panwich : เอ๊กแพนวิช (Pancake Sandwich with egg)อาหารเช้าสุดฮิตตัวใหม่แสนอร่อยที่ทำจากแป้งแพนเค้กนุ่ม ทำสดๆ ใส่ไข่และแฮม คุณค่าเต็มชิ้น อร่อยเต็มคำที่จะทำให้คุณติดใจต้องเติมเต็มทุกมื้อเช้า ก่อนเริ่มงาน และ Hokkaido Milk Bun : ขนมปังฮอกไกโดมิลค์บันสูตรนมสดจากญี่ปุ่นเนื้อนุ่มไร้สารเสริมใดๆ นุ่มนานข้ามคืนสอดไส้ชนิดต่างๆเช่น ไส้ครีมนมสด ไส้ครีมนมสดไข่เค็มไส้ครีมนมสดทีรามิสุ ไส้ครีมนมสดช็อกโกแลต ไส้ครีมนมสดชาเย็น
นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มอื่นๆ ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน อาทิ ชีสเค้กญี่ปุ่นหน้าไหม้ เนื้อนุ่มละมุนลิ้นไขมันต่ำ,ลอนดอนคัพเค้ก : คัพเค้กชนิดต่างๆหน้ากุหลาบเช่นคัพเค้กรสส้มคัพเค้กเรดเวลเวท, เครื่องดื่มชากุหลาบและกาแฟยูสุ เป็นต้น
ปัจจุบันเนื่องจากการแข่งขันเกี่ยวกับเบเกอรี่สูง นางทิพาภรณ์จึงได้เผยถึง 8 กลยุทธ์ทางการตลาด สำคัญ คือ “RICHESSE’s Key Strategies” นั่นคือ R = Relationship คือการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้ากระชับความสัมพันธ์กับลูกค้าเพื่อเข้าใจพฤติกรรมและสร้างกิจกรรมที่ตรงใจ, I = Innovation การสร้างนวัตกรรมสินค้าพัฒนาหาสินค้าใหม่ๆไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบหรือเมนูที่ดีและทันสมัย, C = Customer Voice พร้อมฟังเสียงลูกค้าโดยมีการวิจัยตลาดเพื่อเข้าใจความต้องการของลูกค้าทุกๆไตรมาส, H = Health เน้นเรื่องสุขภาพเป็นสำคัญด้วยการผลิตสินค้าโดยยึดหลักคุณภาพต้องมาก่อนเสมอ (no trans fat), E = English Garden กับคอนเซ็ปต์เบเกอรี่ในสวนสไตล์อังกฤษสร้างบรรยากาศควบคู่กับขนมที่อร่อย, S = Sharing การแบ่งปันโดยการเปิดสอนการทำเบเกอรี่ต่างๆ เพื่อแบ่งปันความรู้แม่บ้าน&พ่อบ้านยุคใหม่, S = Social Platform เน้นเข้าถึงสื่อโซเชียลสำคัญทุกชนิดปรับกลยุทธ์การสื่อสารให้เข้าถึงสื่อแบบ New Normal และสุดท้าย E = Earthไม่ลืมที่จะดูแลโลกใบนี้ในทุกๆ กิจกรรมด้วยการเน้นการใช้ภาชนะที่ไม่สิ้นเปลือง และภาชนะ reuse อยู่เสมอ
ปัจจุบันริชเชสมีทั้งหมด 11 สาขา ได้แก่ สาขา ICC ซอยประดู่ 1,สาขาเดอะมอลล์ ท่าพระ, สาขาโลตัสบางแค, สาขาธนาคารธนชาต ถนนเพชรบุรี, สาขาโลตัส อ่อนนุช 80,สาขาสถานีขนส่งสายใต้ใหม่, สาขาแพลตตินั่ม, สาขาเมกาบางนา, สาขา Factory Outlet ศรีราชา, สาขา ILC บางนา กม.18 วัดศรีวารีน้อย และ สาขา @first มาบุญครอง
สนใจสอบถามได้ที่โทร.02-6823030,086-3668160 หรือคลิก facebook.com/richessebakery เพื่อไม่ให้พลาดโปรโมชั่นและสิทธิพิเศษต่างๆ