ปัจจุบันเทรนด์การดูแลสุขภาพด้วยการออกกำลังกายได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างแพร่หลาย สำหรับคนวัยทำงานที่มีอาการปวดหลัง ปวดเอว นั่งนานจนข้อกระดูกสักหลังคด ต่างก็มักจะได้รับคำแนะนำให้ไปเล่นโยคะ หรือ พิลาทิส เพื่อช่วย ลดอาการออฟฟิศซินโดรม ต่างๆ เหล่านั้น ซึ่งที่ผ่านมา มีบทความเขียนถึงคุณประโยชน์ที่ได้จากการเล่นโยคะไปมากแล้ว วันนี้ เราเลยจะชวนคุณมาทำความรู้จักเกี่ยวกับการเล่นพิลาทิสให้มากยิ่งขึ้นว่า มีประโยชน์ และต่างจากการเล่นโยคะอย่างไร
พิลาทิส คืออะไร?
พิลาทิส (Pilates) เป็นการออกกำลังกายที่อาศัยการใช้กล้ามเนื้อบริเวณส่วนแกนกลางลำตัว ที่ให้ความสำคัญกับการเคลื่อนไหวส่วนต่างๆ ของร่างกาย ควบคู่ไปกับการฝึกลมหายใจ จึงเป็นอีกหนึ่งการออกกำลังกายที่ให้ความสำคัญในเรื่องของการจัดระเบียบร่างกาย โดยใช้กล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว และหลังเป็นหลัก เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรง ความยืดหยุ่น
มีงานวิจัยพบว่า พิลาทีส เป็นการออกกำลังกายอย่างหนึ่งที่ช่วย ลดการอาการปวดหลัง และช่วยเพิ่มการใช้งานของหลังให้ดีขึ้นในกลุ่มคนไข้ที่มีอาการปวดหลังส่วนล่างเรื้อรังแบบไม่ทราบสาเหตุ ดังนั้น การเล่นพิลาทีสจึงมีส่วนช่วย ลดอาการออฟฟิศซินโดรม ได้จริง
นอกจากนี้ ประโยชน์ของพิลาทิส ยังมีอีกมากมาย เช่น
- ทางด้านจิตใจ ช่วยปรับสมดุลของอารมณ์ ฝึกสมาธิ และทำให้จิตใจสงบ
- ทางด้านร่างกาย ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกาย เพราะเพิ่มความยืดหยุ่น และความทนทานของกล้ามเนื้อ จึงช่วยเพิ่มความสามารถในการทรงตัว
- เป็นการออกกำลังกายที่เสี่ยงต่อการบาดเจ็บได้น้อยกว่าการออกกำลังกายประเภทอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม แม้พิลาทิสจะเป็นการออกกำลังกายที่เหมาะสำหรับทุกเพศ ทุกวัย และทุกๆ ช่วงอายุ ตั้งแต่วัยรุ่นจนถึงวัยสูงอายุ รวมไปถึงผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ แต่ก็ควรฝึกอยู่ภายใต้ความดูแลของผู้เชี่ยวชาญ เลือกท่าและโปรแกรมที่เหมาะสมกับตนเอง
การเล่น พิลาทิส มีกี่ประเภท
การออกกำลังกายด้วยการเล่นพิลาทิส ปัจจุบันนิยมเล่นด้วยกันอยู่ 3 แบบ คือการเล่นโดยไม่ใช้อุปกรณ์ (เล่นบนเสื่อ) การเล่นโดยใช้อุปกรณ์เฉพาะ และพิลาทีสฟลาย
- เล่นพิลาทิสบนเสื่อ การเล่น พิลาทิส ประเภทนี้เป็นท่าออกกำลังกายคล้ายโยคะ แต่เน้นท่าที่บริหารแกนกลางลำตัวและหน้าท้อง ฝึกเล่นเองได้ง่าย
- ใช้เครื่องรีฟอร์มเมอร์ เป็นเล่นกับอุปกรณ์สำหรับพิลาทิสโดยเฉพาะ เช่น เครื่องรีฟอร์มเมอร์ (Reformer), คาดิลแลค (Cadillac), เก้าอี้วุนดา (Wunda Chair) โดยอุปกรณ์จะใช้ในการดึงและยืด เพื่อต้านแรงโน้มถ่วงหรือให้ร่างกายได้ออกแรงตามแรงโน้มถ่วง ส่วนใหญ่ต้องไปเล่นที่ฟิตเนส
- แบบฟลาย เป็นเล่นกับอุปกรณ์ผืนผ้าที่ห้อยจากที่สูง โดยใช้ผ้าเป็นตัวยึดในการทำท่าต่างๆ เป็นการนำศาสตร์ของโยคะ พิลาทิส และยิมนาสติก ผสมผสานเข้าด้วยกัน ส่วนใหญ่ต้องไปฝึกเล่นที่ฟิตเนส
พิลาทิส แตกต่างจากโยคะ อย่างไร
พิลาทิส หรือ Pilates ช่วยจัดตำแหน่งของร่างกาย ควบคุมกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว และฝึกการหายใจที่ถูกต้อง การพิลาทิสต่างกับการเล่นโยคะตรงที่เน้นด้านกายวิภาคที่ซับซ้อนกว่า มีวิธีการหายใจต่างกัน และเน้นเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อมากกว่า ด้วยการใช้อุปกรณ์ที่แตกต่างกัน จึงจำเป็นต้องมีเทรนเนอร์หรือผู้เชี่ยวชาญคอยแนะนำและฝึกให้
นอกจากนี้ พิลาทิสยังมีความแตกต่างจากโยคะ ในแง่มุมอื่นๆ เช่น
- การโฟกัส ในขณะที่โยคะเน้นฝึกให้จิตใจสงบนิ่ง เคลื่อนไหวร่างกายให้สอดคล้องไปกับจิตใจโดยใช้ลมหายใจเชื่อมโยง จนเกิดความผ่อนคลาย ทางด้าน พิลาทิส จะเน้นโฟกัสที่แกนกลางของร่างกาย โดยใช้ลมหายใจเป็นกำลังส่งให้ออกกำลังกายได้ดีขึ้น
- เน้นจุดต่างกัน การฝึกโยคะเน้นไปที่การสร้างความยืดหยุ่นให้กับกล้ามเนื้อและคลายความกังวลของจิตใจ ส่วนการเล่นพิลาทิส เน้นไปที่การสร้างกล้ามเนื้อ ความแข็งแรงของแกนกลางลำตัว ให้มีความยืดหยุ่น จึงช่วยบำบัดร่างกายที่เกิดจากอาการบาดเจ็บ และ ลดอาการออฟฟิศซินโดรม จากการทำงานและใช้ชีวิตประจำวัน
- วิธีหายใจต่างกัน การเล่นพิลาทิส หายใจเข้าทางจมูก และหายใจออกทางปาก ขณะที่การเล่นโยคะ หายใจเข้า – ออกทางจมูก
- อุปกรณ์ต่างกัน การเล่นพิลาทิส ฝึกได้ทั้งบนเสื่อ บนเครื่องอุปกรณ์ บนผืนผ้า ซึ่งการใช้อุปกรณ์ประกอบการเล่นพิลาทีส จะช่วยให้เห็นกล้ามเนื้อชัดเจนขึ้น ขณะที่การเล่นโยคะ โดยส่วนมากจะเล่นบนเสื่อโยคะเท่านั้น
ข้อดี – ประโยชน์ของการเล่น พิลาทิส มีอะไรบ้าง
เสริมสร้างกล้ามเนื้อ เพิ่มสมดุลของร่างกาย การทรงตัว และการเคลื่อนไหวของข้อต่อต่างๆ ในร่างกาย ช่วยแก้อาการหลังแอ่น หลังค่อม หรือไหล่ห่อ จึงช่วยพัฒนาบุคลิกภาพให้ดีขึ้นได้ด้วย
ช่วยควบคุมน้ำหนักทางอ้อม แม้จะไม่ช่วยลดน้ำหนักได้โดยตรง แต่เนื่องจากการเล่นพิลาทีสจะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง เพิ่มมัดกล้ามเนื้อ พอมีกล้ามเนื้อมากขึ้นก็จะช่วยเผาผลาญไขมันส่วนเกินได้ดีขึ้นตามไปด้วย จึงมีส่วนช่วยในการควบคุมน้ำหนักได้
ป้องกันการบาดเจ็บ เพราะการเล่นพิลาทิสเป็นประจำ จะช่วยยืดหยุ่นส่วนต่างๆ และลดความตึงเกร็งของกล้ามเนื้อ จึงช่วยลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา หรือการเต้น
บรรเทาอาการปวดหลัง เพราะการเล่นพิลาทิส เน้นท่าทางการออกกำลังเกี่ยวกับแกนกลางลำตัว ช่วงไหล่ บ่า หลัง เอว หน้าท้อง การบริหารด้วยท่าเหล่านี้บ่อยๆ จึงช่วยบรรเทาอาการปวดหลัง และแก้อาการออฟฟิศซินโดรมได้ด้วย
เล่น พิลาทิส ควรระวังอะไร?
พิลาทิส เป็นการออกกำลังกายที่เหมาะสำหรับทุกเพศ ทุกวัย ไม่ว่าเพศหญิง เพศชาย หรือผู้สูงอายุ เพราะมีการปรับท่าการออกกำลังกายให้เหมาะสมสำหรับช่วงวัยต่างๆ อย่างไรก็ตาม การเล่นพิลาทีส ขึ้นอยู่กับปัจจัยทางร่างกายของผู้เล่น ดังนั้นจึงควรเล่นภายใต้การดูแลจากผู้เชี่ยวชาญ หากเป็นผู้สูงอายุ ควรระวังในเรื่องของกระดูก เนื่องจากกระดูกของผู้สูงอายุมีความเปราะบางและแตกหักได้ง่าย ดังนั้น สิ่งที่ผู้เล่นสูงอายุควรทำก่อนเล่นพิลาทีสคือ การตรวจความหนาแน่นของมวลกระดูก โดยเฉพาะผู้ที่มีความเสี่ยงในการเกิดโรคกระดูกพรุน
แม้ว่าการออกกำลังกายรูปแบบพิลาทิส จะสามารถทำเองที่บ้านได้ แต่อย่าลืมว่าหลักสำคัญของการเล่นพิลาทิสคือ การจัดตำแหน่งร่างกายให้ถูกต้อง ดังนั้นการมี เทรนเนอร์ส่วนตัว ที่มีความเชี่ยวชาญ จะช่วยให้การออกกำลังกายด้วยการเล่นพิลาทิสได้ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ช่วยปรับท่าทางในการออกกำลังกายให้ถูกต้อง ลดความเสี่ยงในการได้รับบาดเจ็บ รวมไปถึงได้รับคำแนะนำถึงวิธีการควบคุมกล้ามเนื้อและการหายใจอย่างถูกวิธี
มือใหม่หัดเล่น พิลาทิส ต้องเตรียมอะไรบ้าง
- การแต่งกาย ควรเลือกสวมชุดที่กระชับและพอดีตัวหรือชุดสำหรับออกกำลังกายโดยเฉพาะ เช่น สปอร์ตบรา กางเกงสำหรับออกกำลังกายที่มีความยืดหยุ่น เพื่อความคล่องตัวระหว่างเล่นพิลาทิส และถ้าหากว่าเล่นพิลาทิสกับเครื่องรีฟอร์เมอร์หรือเตียงคาดิแลค สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องใส่รองเท้ากันลื่นทุกครั้ง
- ควรรับประทานอาหารก่อนเริ่มเล่นหรือเข้าคลาสพิลาทิส ประมาณ 2-3 ชั่วโมง เพื่อไม่ให้ท้องว่างจนเกินไป และเผื่อเวลาให้อาหารได้ย่อยก่อนการออกกำลังกาย
- วอร์มอัพร่างกาย ก่อนการเล่นทุกครั้ง เพราะการวอร์มร่างกายช่วยลดอาการปวดกล้ามเนื้อไปได้เปราะหนึ่ง
สมัครคอร์สพิลาทิส ราคาเท่าไร?
ราคาของคอร์สพิลาทิส มีหลากหลาย ขึ้นอยู่กับจำนวนครั้งและประเภทของการเล่น ดังนั้นจึงควรสอบถามกับสถานที่ออกกำลังกายนั้นๆ ให้ดีเสียก่อน ซึ่งราคาของการเล่น พิลาทิส แบบส่วนตัวจะราคาสูงกว่าการเล่นแบบกลุ่ม โดยมีเรทราคาในการทดลองเล่นขั้นต่ำต่อครั้งเฉลี่ยที่ 1000-1500 บาท* ส่วนการทดลองเล่นแบบกลุ่มนั้น จะอยู่ที่ครั้งละประมาณ 600 – 800 บาท* ตามโปรโมชั่น ณ ขณะนั้นๆ ฉะนั้น การสมัครเรียนแบบกลุ่มต่อคอร์ส 10 ครั้ง ราคาโดยประมาณอาจจะอยู่ที่ 9,000 – 10,000 บาท* เลยทีเดียว
หากคุณสนใจสมัครบัตรเครดิตไว้ผ่อนคอร์สพิลาทิส เรามีบัตรเครดิตดีๆ มาแนะนำ เช่น
สายสะสมแต้มคะแนนบัตรเครดิต ถูกใจแน่นอน สำหรับ บัตรเครดิต ttb so fast จากธนาคาร ทีเอ็มบีธนชาต เพราะไม่เพียงแต่ให้คุณสะสมคะแนนได้อย่างคุ้มค่า แต่ยังฟรีค่าธรรมเนียมทั้งแรกเข้าและรายปี แถมยังมีจุดเด่นของผลิตภัณฑ์อีกมากมาย เช่น
- รับคะแนนเร็วทุก การใช้จ่าย ทุก 10 บาท รับ 1 คะแนน
- สามารถแบ่งจ่ายหรือผ่อน 0% 3 เดือน ได้ทุกยอดใช้จ่ายตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป*
- เบิกเงินสดทันใจ กดเงินสดผ่านตู้ ATM ได้สูงสุด 100% ของวงเงินบัตร
- ฟรี ความคุ้มครองประกันอุบัติเหตุจากการเดินทาง วงเงินคุ้มครองสูงสุด 6 ล้านบาท*
สมัครบัตรเครดิต ttb so fast ผ่านช่องทางออนไลน์ที่แบบฟอร์มนี้
ไม่พลาดทุกเรื่องราวข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ LINE @MoneyGuruThailand
ข้อมูลอ้างอิง RUSHREFORM, ไทยรัฐออนไลน์, โรงพยาบาลกระดูกและข้อ ข้อดีมีสุข, Fit.Friend
บทความแนะนำ
- อยากสมัคร บัตรเครดิตใบแรก ควรเลือกอย่างไร?
- บัตรเครดิตน่าใช้ สำหรับคนเงินเดือนเกิน 30,000 บาท
- ใช้บัตรเครดิตอย่างไร ไม่ให้เสียดอกเบี้ย!