รวบสาวแสบ ตุ๋นขายทองราคาถูก กำไรดี เหยื่อกว่า 200 ราย สูญหลายล้านบาท เจ้าตัวปฏิเสธ อ้างไม่ได้ปิดเฟซบุ๊กหนี ให้แจ้งยอดมาจะทยอยจ่าย
เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด
เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 21 เม.ย. 2564 ร.ต.อ.จรูญ ตรงกลาง รอง สส.สืบสวน สภ.เขาบางแกรก พร้อมด้วย ร.ต.ต.วรังสรรค์ จงเกตุกรณ์ รอง สส.สภ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี ชุดสืบสวนสนธิกรรมลัง และชุดสืบสวน สภ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท นำหมายศาลจังหวัดอุทัยธานี เข้าจับกุมนางกชกร หรืออ๊อด ศาสตร์อนงค์ บ้านเลขที่ 16/18 ถนนอู่ทอง ต.วัดสิงห์ อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท ในข้อหาฉ้อโกงประชาชนเป็นเงินจำนวนหลายล้านบาทได้คาบ้านที่กำลังขึ้นบ้านใหม่
น.ส.กมลชนก บุดดี พร้อมเจ้าทุกข์อีกหลายราย เข้าแจ้งความร้องทุกข์ไว้กับ พ.ต.ท.สังวาล์ งอกศิลป์ ว่า นางกชกรเปิดเฟซบุ๊กชื่อว่า หญิงอ๊อด แล้วโพสต์ขายทองว่าวันนี้มีโปรโมชั่นขายทองถูกกว่าตลาด ในราคาบาทละ 19,100 บาท และให้รอ 15 วัน แล้วจะคืนเป็นราคาทองคำแท่ง ซึ่งจะอยู่ที่ 26,000 บาท ขึ้นอยู่กับราคาทองคำขึ้นลงแต่ละวัน ตนและเพื่อนเห็นว่าน่าสนใจและกำไรดี จึงส่งข้อความไปหานางกชกรทางเฟซบุ๊ก
น.ส.กมลชนก กล่าวต่อว่า หลังจากตกลงกันเรียบร้อย นางกชกรบอกว่าจะดึงเข้ากลุ่มในเฟซบุ๊ก จากนั้นนางกชกรก็อธิบายโปรโมชั่นแต่ละวันให้ลูกค้าที่อยู่ในเฟซบุ๊กกว่า 200 ราย ตนเล่นซื้อทองจำนวนมาก จนส่งยอดเงินไปซื้อทอง 35 ครั้ง รวมประมาณ 2,208,300 บาท ช่วงแรกนางกชกรก็จ่ายปกติ แต่พอมาช่วงเดือน เม.ย. 2564 นางกชกรไม่จ่ายให้ตามกำหนดกับลูกค้าทุกราย โทรไปถามก็ตอบว่ากำลังยุ่ง ขึ้นบ้านใหม่
น.ส.กมลชนก กล่าวอีกว่า ตั้งแต่เดือน เม.ย. ยอดรับของตนเป็นทองคำ 70 กรัม คิดเป็นเงินแสนกว่าบาท ตนทวงถามไปก็าบอกว่าไม่มี ตนและเพื่อนเห็นท่าไม่ดี จึงเข้าปรึกษาเจ้าหน้าที่ตำรวจและทนายความ กระทั่งเจ้าหน้าที่ออกหมายจับ
ด้านนางกชกร ผู้ต้องหา กล่าวปฏิเสธว่า ตนไม่ได้ปิดเฟซบุ๊กอย่างที่มีคนกล่าวหา หากใครจะรับเงินให้แจ้งมา ตนก็อยู่ในกลุ่มตลอด และยังเล่นแชร์อยู่ในบ้านเขาเลย แล้วจะมาว่าตนโกงได้ไง ตนมีหลักฐานในการจ่ายเงิน ตนประกาศในบ้านเลยว่าให้ทุกคนรวมยอดมาให้ ว่าแต่ละคนมียอดเท่าไร และตนจะทยอยจ่าย
ด้าน พ.ต.ท.สังวาล์ งอกศิลป์ สารวัตรเวร สภ.หนองฉาง เจ้าของคดี กล่าวว่า ตนได้รับแจ้งความร้องทุกข์คดีดังกล่าวจากประชาชนที่เดือดร้อนเป็นจำนวนมาก พบว่ามีการประกาศโฆษณาค้าขายทองกันทางเฟซบุ๊ก โดยมีผู้เสีย 200 กว่าราย ซึ่งมีการเปิดและปิดเฟซบุ๊ก จากนั้นก็เปิดใหม่อีก แค่ผู้เสียหายรายเดียวก็สูญเงินไปจำนวน 2,208,300 บาท 
