‘เอไอเอส’ ผนึก’ยักษ์ค้าปลีก’ เปิดห้างสรรพสินค้าเสมือนจริง – เดลีนีวส์

นายปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าทั่วไป บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ เอไอเอส เปิดเผยว่า เอไอเอสได้นำศักยภาพของเทคโนโลยี 5จี และ วีอาร์ (Virtual reality) ซึ่งเป็นการจำลองภาพให้เสมือนจริง แบบ 360 องศา มาต่อยอดสร้างประสบการณ์และประโยชน์ในอุตสาหกรรมค้าปลีก ผ่านแพลตฟอร์ม วี-อเวนิวดอทโค (V-Avenue.Co) ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าถึงสินค้าและบริการได้ทั้งแบบ 2 มิติ และ 3 มิติเมื่อใส่แว่นวีอาร์ ด้วยการเชื่อมต่อห้างสรรพสินค้าและแพลตฟอร์มออนไลน์เข้าไว้ด้วยกันแบบไร้รอยต่อ โดยไม่ต้องเดินทาง สั่งซื้อสินค้าได้ทุกที่ทุกเวลา โดยหวังให้เป็นอีกหนึ่งช่องทาง ช่วยกระตุ้นและพลิกฟื้น การเติบโตของเศรษฐกิจไทยในสถานการณ์นี้

 

“เอไอเอสใช้เวลาในการพัฒนาแพลตฟอร์ม V-Avenue.Co มากว่า 1 ปี เป็นการร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ ภาคอุตสาหกรรม ค้าปลีกชั้นนำ คือ เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด, ดิ เอ็มโพเรียม, ทีวีไดเร็ค และกลุ่มแบรนด์ไลฟ์สไตล์ และร้านค้าย่อยที่เป็นเอสเอ็มอีมากกว่า 210 ราย ร่วมปฏิวัติวงการอุตสาหกรรมค้าปลีก และยกระดับบริการออนไลน์ ของไทยให้ก้าวหน้าไปอีกขั้น กับเวอร์ชวลพรีเมียมชอปปิงแพลตฟอร์ม ที่เป็นแหล่งรวมศูนย์การค้าเสมือนจริง แห่งแรกของโลก พร้อมโปรโมชั่นและส่วนลดมากมาย กับสินค้ามากกว่า 1 หมื่นรายการ”

 

นายปรัธนา กล่าวต่อว่า เอไอเอสสร้างแพลตฟอร์มนี้ขึ้นมาไม่ได้หวังผลทางธุรกิจ แต่ต้องการช่วยพาร์ทเนอร์ และกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ได้เข้าถึงฐานลูกค้าของเอไอเอสที่มีอยู่กว่า 42 ล้านราย โดยไม่มีการเรียกเก็บ ค่าธรรมเนียมส่วนแบ่งรายได้จากเอสเอ็มอีแต่อย่างใด ซึ่งเอสเอ็มอีที่สนใจสามารถสมัครร่วมขายสินค้าได้ในแพลตฟอร์ม โดยตั้งเป้าหมายจะมีเอสเอ็มอีเข้าร่วมมากถึง 1,000 ราย และมีผู้เข้ามาใช้งานมากกว่า 1 ล้านคน

 


                 

“การใช้งานเมื่อลูกค้าคลิกซื้อสินค้าในห้างฯ จะเชื่อมต่อไปยังระบบออนไลน์ของร้าน ซึ่งผู้ขายสามารถ ใช้ระบบชำระเงิน และการขนส่งที่มีอยู่แล้วได้ทันที โดยในอนาคตวางแผนสร้างและ พัฒนาฟีเจอร์ให้ตอบโจทย์ การชอปปิงออนไลน์มากยิ่งขึ้น เช่น พนักงานขายไลฟ์สด พูดคุยแนะนำลูกค้าในการเลือกซื้อสินค้าได้ หรือการเปิดพื้นที่ลานหน้าห้างฯ ให้ผู้ประกอบการทุกขนาด เข้ามาใช้แพลตฟอร์มสร้างอีเวนต์ในรูปแบบวิชวล เอ็กซ์โป จัดแสดงสินค้า แสดงคอนเสิร์ต หรือแสดงแฟชั่นโชว์ เพื่อต่อยอดเป็นรูปแบบธุรกิจใหม่ๆ ต่อไป”