ตลาดใหญ่สุดของบิ๊กไบค์เมืองไทย คือรถในกลุ่มท่องเที่ยวเดินทาง ซึ่งขายดีสุดๆ โดยเฉพาะคลาส Adventure Touring ระดับเริ่มต้น ซึ่งมาโชว์ตัวที่งาน Motor Expo 2022 มากมายหลายรถรุ่น และเราขอหยิบตัวที่ “เข้าตา” มาแนะนำตามนี้ครับ!!
1. Ducati Desert X – 639,000 บาท
ไลน์อัพล่าสุดที่ได้รับแรงบันดาลใจจากความอดีตรุ่งโรจน์ในวงการแรลลี่ของดูคาติ กับโมเดลเอนดูโร่แอดเวนเจอร์ที่ไม่ใช่แค่หน้าตาหล่อเหลาเพียงอย่างเดียว แต่ขี่ลุยได้ทุกรูปแบบอย่างเต็มสูบ.. เครื่องยนต์ 2 สูบ 937 ซีซี. Testastretta ปรับจูนมาเพื่อการขับขี่ออฟโรด, มิติการขับขี่ที่ใช้งานสะดวกสบายไม่ว่าจะสบายๆในเมืองหรือลุยทางฝุ่น, โหมดขับขี่ 6 โหมด (2 โหมดออฟโรด) พร้อมระบบช่วยเหลือการขับขี่ต่างๆทั้ง Traction Control, Wheelie Control, Engine Brake Control, Cornering ABS, Quickshifter และ Cruise Control..
2. Honda CB 500 X – 224,900 บาท
โมเดลเริ่มต้นที่ขายโคตรดีตลอดของจริง เพราะนำไปใช้งานได้หลากหลายสุดๆ โดดเด่นที่คาแร็คเตอร์นุ่มนวลขี่ง่าย น้ำหนักตัวไม่มากเกินไป แถมเซ็ตอัพมาให้ขี่บนถนนของประเทศไทยได้อย่างลงตัวในราคาที่เข้าถึงง่าย.. แม้ระบบอิเล็กทรอนิกส์จะไม่ได้มีมาให้เยอะแยะเหมือนโมเดลมิดเดิลเวทอื่นๆแต่เครื่องยนต์ 500 ซีซี. 2 สูบเรียง, โช้คอัพหน้า USD ขนาดใหญ่, ระยะ Ground Clearance สูงถึง 181 มม. ก็ทำให้ Honda CB500X คันนี้พร้อมวิ่งไปทั่วประเทศไทยแล้ว
3. Kawasaki KLR 650 – 261,500 บาท
โดดเด่นที่ความง่ายในการดูแลกับรถเน้นเดินทางไกล “อึด-ถึก-ทน” ตัวจริง ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 652 ซีซี. สูบเดี่ยว ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ปรับจูนพละกำลังมาให้ขี่เดินทางไกลได้อย่างพอดีมือ ไม่ดุ ไม่ย้วย จนเกินไป พร้อมระบบช่วงล่างสไตล์แอดเวนเจอร์.. ล้อหน้าขอบ 21″ ล้อหลังขอบ 17″ ระยะ Ground Clearance 210 มม. มาพร้อมถังน้ำมันขนาด 23 ลิตร! งานนี้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ไม่ต้องเยอะ.. เน้น “ขี่ไกล ประหยัดน้ำมัน ลุยได้ทุกเส้นทาง”
4. KTM 390 Adventure (MY2022) – 239,800 บาท
ต่อยอดความสำเร็จจากไลน์อัพสปอร์ต สู่หนทางทัวร์ริ่งออฟโรดด้วยรหัส 390 Adventure (MY2022) มาพร้อมฟังก์ชั่นจัดเต็มทะลุคลาสเริ่มต้น ทั้งเครื่องยนต์ 390 ซีซี. คาแร็คเตอร์จัดจ้าน, ระบบช่วงล่าง WP ,คันเร่งไฟฟ้า, ระบบเบรก ABS, Cornering ABS พร้อมโหมด Supermoto ABS ที่เลือกปิด ABS บริเวณล้อหลังเพื่อการขับขี่ที่ดีขึ้นบนสภาพถนนออฟโรดได้
5. Yamaha Tenere 700 – 459,000 บาท
จะเรียกว่าแอดเวนเจอร์ทัวริ่งก็ไม่เชิงเพราะนี่มันสายลุยชัดๆ Tenere 700 ทำทรงมาให้ขี่ครอสคันทรี่ด้วยหน้าตาถอดแบบรถแข่งแรลลี่ เบาะนั่งปาดตอนเดี่ยว พร้อมมิติรถกระชับขา เป็นรถในคลาสมิดเดิลเวทที่ได้พละกำลังของเครื่องยนต์ CP2 689 ซีซี. มาใช้งานกับการลุยทางออฟโรดได้อย่างลงตัว ทั้งยังได้ช่วงล่างเทพๆ หน้า-หลัง แถมยังปรับเซ็ทเพิ่มเติมได้อีกต่างหาก
6. Triumph Tiger Sport 660 – 359,000 บาท
อีกแพลทฟอร์มของเครื่องยนต์ 3 สูบเรียงในรูปแบบรถแอดเวนเจอร์ทัวริ่งเน้นทางเรียบ ที่มาพร้อมออปชั่นแน่นเต็มคัน ทั้งระบบคันเร่งไฟฟ้า, ระบบเปิด-ปิดแทร็คชั่นคอนโทรล, โหมดขับขี่ 2 โหมด, โช้คอัพหน้า USD และโมโนโช้คด้านหลัง ปรับพรีโหลดได้ผ่านตัวปรับรีโมท พร้อมระบบเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน-โกโปร ผ่านแอปพลิเคชั่น My Triumph
7. Suzuki V-Strom SX – ยังไม่เปิดราคา
ใหม่ล่าสุดกับแพลทฟอร์ม 250 ซีซี. ของซูซูกิ เครื่องยนต์สูบเดี่ยวระบายความร้อนด้วยน้ำมันและอากาศของซูซูกิบล็อคนี้ ปรับจูนคาแร็คเตอร์มานิดหน่อยให้มีแรงต้นมากขึ้น มิติรถเองก็มาในสไตล์ออฟโรดที่ได้ระยะจากพื้นถึงท้องเครื่องกว่า 205 มม. และยังได้เทคโนโลยีล่าสุดจากซูซูกิตามสมัยนิยมทั้ง ระบบเบรก ABS หน้า-หลัง, ระบบ Suzuki Easy Start, และ Suzuki Ride Connect เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนแสดงผลการแจ้งเตือนสายเรียเข้า-โทรออก-สายที่ไม่ได้รับ-ข้อความเข้า และระบบนำทางแบบ Turn-by-Turn
8. Royal Enfield Himalayan – 189,700 บาท
อีกรุ่นสายเดินทางเน้น “อึด-ถึก-ทน” ในสไตล์โมเดิร์นคลาสสิคของ Royal Enfield ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 411 ซีซี. เกียร์ธรรมดา 5 สปีด ได้ระบบความปลอดภัยมาตรฐาน ABS หน้า-หลัง เปิด-ปิดได้(ด้านหลัง) จาก Bosch.. แต่สำหรับ Himalayan แล้วโดดเด่นจริงๆด้วยมิติรถขนาดกระทัดรัด กับความสูงเบาะ 800 มม. ขับขี่ง่ายบนระยะยุบโช้คหน้าขนาด 210 มม. และโช้คหลังที่ 180 มม. พร้อมระบบนำทางแบบ Tripper เชื่อมต่อผ่าน Google Maps และแอปพลิเคชั่น Royal Enfield
เลือกให้ดี แล้วกำตังค์เดินไปให้ถูกบูธในโซนมอเตอร์ไซค์ งาน Motor Expo 2022 นอกจากมอเตอร์ไซค์เยี่ยมๆแล้ว ยังมีโปรโมชั่นเดือดที่แต่ละค่ายแข่งขันดันรถออกกันอย่างเข้มข้นด้วยนะ!