รีไฟแนนซ์ 2565 อาจไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปหากเข้าใจและมีผู้ช่วยคอยดูแลการรีไฟแนนซ์
สำหรับผู้ที่เคยผ่อนเงิน หรือกำลังผ่อนเงิน ไม่ว่าจะเป็น บ้าน รถ หรือผู้ที่มีการกู้ยืมสินเชื่อต่างๆ ย่อมต้องคุ้นเคยกับคำว่า “รีไฟแนนซ์” อย่างเลี่ยงไม่ได้ หรือสำหรับผู้ที่มีคำถามว่า การรีไฟแนนซ์คืออะไร วันนี้ มีคำตอบพร้อมคลายความสงสัยให้ทุกคนได้ จบ ครบ เข้าใจง่ายในบทความนี้ได้เลย
ทำความรู้จักการรีไฟแนนซ์
เมื่อพูดถึงการรีไฟแนนซ์ จะเห็นได้ว่ามีทั้งการรีไฟแนนซ์บ้าน รีไฟแนนซ์คอนโด รีไฟแนนซ์รถยนต์ แต่ว่ารีไฟแนนซ์ หมายถึงอะไร ทำแล้วได้อะไร ควรทำหรือไม่ ใครควรทำการรีไฟแนนซ์ ทุกคำถามมีคำตอบ เพียงคลิก รีไฟแนนซ์ เพื่อสอบถามและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการเงินที่จะช่วยคุณประเมินสถานการณ์การเงินของคุณ และหาตัวเลือกการรีไฟแนนซ์ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณได้
การรีไฟแนนซ์ คือ การกู้เงินใหม่เพื่อนำมาชำระยอดเงินเก่า ช่วยย้ายยอดหนี้ที่มีในสถาบันการเงินเก่าไปยังสถาบันการเงินใหม่โดยใช้หลักประกันเดิม และจุดประสงค์ของการรีไฟแนนซ์คือ การลดอัตราดอกเบี้ยที่ยังต้องจ่าย ส่งผลดีต่อตัวผู้กู้ และระยะเวลาการผ่อนจ่ายอาจสั้นลง หรือมีหลายงวดมากขึ้นก็ได้
ตัวอย่างสถานการณ์ทางการเงินที่บรรเทาได้ด้วยการรีไฟแนนซ์ เช่น เมื่ออยู่ในขั้นตอนการผ่อนบ้าน ผ่อนคอนโด หรือผ่อนรถยนต์ก็ตาม หากพบว่าอัตราดอกเบี้ย ณ เวลานั้นค่อนข้างสูง หรือว่ารายละเอียดงวดต่อเดือนค่อนข้างมาก การรีไฟแนนซ์จะช่วยแก้ไขปัญหาจุดดังกล่าวได้ ช่วยบรรเทายอดเงินที่คงเหลือต้องชำระนั่นเอง
เปรียบเทียบการกู้ทั่วไปกับการรีไฟแนนซ์
หากการรีไฟแนนซ์มีการกู้ยืมเงินแล้ว สิ่งที่หลายคนมักสงสัยคือ เราสามารถกู้เงินเพื่อปิดหนี้แทนการรีไฟแนนซ์ได้หรือไม่ เมื่อเปรียบเทียบแล้วการรีไฟแนนซ์และการกู้ทั่วไปต่างกันอย่างไร และควรกู้หรือรีไฟแนนซ์มากกว่า
ในแง่หนึ่ง การรีไฟแนนซ์จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีการกู้ยืมอยู่แล้ว อย่างเช่นอัตราดอกเบี้ย การกู้ทั่วไปและการรีไฟแนนซ์จะตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกัน
- หากต้องการเงินเพื่อซื้อทรัพย์สินใหม่การกู้เงินอาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า
- ในขณะที่การรีไฟแนนซ์จะเป็นกระบวนการเพื่อลดดอกเบี้ยหรือเงื่อนไขยอดชำระที่ยังคงเหลือ
ดังนั้นสำหรับผู้ที่ต้องการลดภาระค่าใช้จ่ายในส่วนของยอดปัจจุบันที่มีอยู่แล้ว การรีไฟแนนซ์จะช่วยอำนวยความสะดวกในการประเมินสถานการณ์ทางการเงินที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล และหารูปแบบการรีไฟแนนซ์ที่เข้ากับการเอื้ออำนวยกับปัจจัยที่แตกต่างกันไปของแต่ละคนได้
ประโยชน์ของการรีไฟแนนซ์
ก่อนการทำรีไฟแนนซ์ หลายคนย่อมอยากทราบว่าหากตัดสินใจรีไฟแนนซ์แล้วจะเกิดผลดีต่อตัวเองแน่นอนใช่ไหม ข้อดีของการรีไฟแนนซ์มีอะไรบ้าง เห็นผลทันทีไหม
1. การรีไฟแนนซ์ช่วยลดดอกเบี้ยให้ถูกลง
การรีไฟแนนซ์ช่วยลดดอกเบี้ยให้ถูกลง เพราะขั้นตอนของการรีไฟแนนซ์คือการนำยอดหนี้เงินกู้จากสถาบันการเงินเดิม ไปยื่นที่สถาบันการเงินใหม่เพื่อยื่นเรื่องรีไฟแนนซ์ แปลว่าดอกเบี้ยที่มีการจ่ายไปแล้วก็จะลดลง อัตราดอกเบี้ยใหม่ก็จะต่ำลงกว่าเดิม
2. การรีไฟแนนซ์ช่วยลดยอดผ่อนในแต่ละเดือน
การรีไฟแนนซ์ช่วยลดยอดผ่อนในแต่ละเดือน เพราะเมื่อประเมินอัตราดอกเบี้ยใหม่จากยอดหนี้ที่น้อยลง ยอดหนี้สุทธิลดลง ก็สามารถลดยอดผ่อนในแต่ละเดือนได้ด้วยเช่นเดียวกัน
3. การรีไฟแนนซ์ช่วยให้มีสภาพคล่องทางการเงิน
การรีไฟแนนซ์ช่วยให้มีสภาพคล่องทางการเงิน เป็นผลมาจากยอดผ่อนหนี้ที่ลดลงจากการรีไฟแนนซ์ ทำให้จัดสรรปันส่วนการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เช่น ค่างวดใหม่เป็น 25,000 บาทในขณะที่ยอดเก่าคือ 30,000 บาท แปลว่ามีส่วนต่าง 5,000 บาทที่สามารถประหยัดได้ต่องวด ช่วยให้การเงินมีสภาพคล่องตัวมากขึ้นได้ในระยะยาวเลยทีเดียว
ประเภทของการรีไฟแนนซ์มีอะไรบ้าง
เมื่อทราบข้อดีและประโยชน์ของการรีไฟแนนซ์แล้ว ลำดับต่อไปคือการกล่าวถึงรายละเอียดของการรีไฟแนนซ์ เนื่องจากการรีไฟแนนซ์มีหลายรูปแบบ และมีหลายสินค้าการบริการที่สามารถทำการรีไฟแนนซ์เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้กับสภาพการเงินได้
1. รีไฟแนนซ์บ้านและคอนโด
การรีไฟแนนซ์บ้านและคอนโด หรือ สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ผู้ที่ต้องการทำการรีไฟแนนซ์จะต้องผ่อนบ้านที่กู้อยู่มามากกว่า 3 ปี ไม่ติดเครดิตบูโร ฐานเงินเดือน ณ เวลานั้นสามารถผ่อนบ้าน ผ่านคอนโดได้ โดยการรีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารหรือสถาบันการเงินแห่งใหม่ จะมีข้อดีคือลดดอกเบี้ยบ้าน/คอนโดได้มากกว่าการลดดอกเบี้ยกับธนาคารเดิม ที่ถึงแม้ว่าจะไม่ต้องยื่นเอกสารใหม่ ไม่ต้องเสียค่าจดจำนอง แต่ก็ขอลดดอกเบี้ยได้น้อยกว่าเช่นกัน
การรีไฟแนนซ์บ้านและคอนโด จะช่วยให้ดอกเบี้ย หรือยอดการผ่อนบ้านต่อเดือนราคาถูกลง ช่วยลดระยะเวลาผ่อนบ้านได้หลายปีดูตามดอกเบี้ยและวงเงิน และช่วยเพิ่มวงเงินกู้ให้กับผู้ที่ต้องการนำเงินไปรีโนเวทบ้านหรือปิดหนี้อื่นๆ
หากยังผ่อนไม่ครบ 3 ปี อาจไม่แนะนำเพราะมักมีการเสียค่าปรับประมาณ 2-3% ของยอดหนี้ที่ยังคงเหลือ และการรีไฟแนนซ์บ้านมักใช้เวลาพิจารณาประมาณ 1 เดือนขึ้นไป จึงควรวางแผนการผ่อนเงินเพื่อการรีไฟแนนซ์ด้วย
2. รีไฟแนนซ์รถยนต์
การรีไฟแนนซ์รถยนต์ หรือ สินเชื่อรถยนต์ เป็นการรีไฟแนนซ์สำหรับผู้ที่มีการผ่อนรถยนต์อย่าง รถเก๋ง รถกระบะ รถตู้ หรือว่ารถจักรยานยนต์ มอเตอร์ไซค์ ผ่อนมาเกิน 50% ของยอดหนี้ และต้องการวงเงินเพิ่มเพื่อความคล่องตัวทางด้านการเงินอย่างเร่งด่วน เป็นเงินก้อน การรีไฟแนนซ์รถยนต์สามารถทำได้ทั้งผู้ที่มีและไม่มีรายได้ประจำ นั่นหมายถึงคนที่ทำงานพาร์ทไทม์ ฟรีแลนซ์ ก็สามารถขอรีไฟแนนซ์รถยนต์ได้นั่นเอง
3. รีไฟแนนซ์บัตรเครดิต
การรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต จะเป็นการรวบรวมยอดสินเชื่อจากทุกบัตรเครดิตที่เราเป็นเจ้าของให้เป็นสินเชื่อก้อนเดียว ไปหาสถาบันการเงินแห่งใหม่ ช่วยให้ไม่ต้องผ่อนชำระขั้นต่ำ และเปลี่ยนเป็นการชำระสินเชื่อแบบมีระยะเวลาที่เพิ่มขึ้นแทน เริ่มต้นที่ 12 เดือนและได้สูงสุด 72 เดือน ช่วยให้ยอดผ่อนชำระในแต่ละเดือนน้อยลง ดอกเบี้ยก็ถูกลง โดยอายุ 22-60 ปีก็สามารถขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตได้ หรือมีเงินเดือน 30,000 บาทขึ้นไป หากมีเงินเดือนน้อยกว่า 30,000 แต่ว่ามีสินเชื่อปัจจุบันไม่เกิน 2 ธนาคาร/สถาบันทางการเงิน ก็สามารถขอได้เช่นกัน
แนะนำขั้นตอนการรีไฟแนนซ์ ฉบับเข้าใจง่าย
เมื่อตัดสินใจจะขอรีไฟแนนซ์แล้ว ขั้นตอนเบื้องต้นของการรีไฟแนนซ์เป็นดังต่อไปนี้
1. เลือกธนาคาร
โดยธนาคารที่ดีที่สุด คือ ธนาคารที่ให้ดอกเบี้ยถูกที่สุด
2. ตรวจสอบสัญญากู้ว่า สามารถรีไฟแนนซ์ได้เมื่อไหร่
เพราะการรีไฟแนนซ์แต่ละประเภทใช้ระยะเวลาไม่เท่ากัน เช่น รีไฟแนนซ์สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยจะใช้เวลาขั้นต่ำ 3 ปี และรีไฟแนนซ์รถยนต์ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินที่ผ่อนไปแล้ว
3. ประเมินระยะเวลาการรีไฟแนนซ์
เพราะธนาคารใหม่ส่วนมากใช้เวลาพิจารณา 1-2 เดือน จึงสามารถยื่นเรื่องขอรีไฟแนนซ์ได้ตั้งแต่ 1-2 เดือนก่อนครบสัญญา
4. เตรียมเอกสารประกอบการยื่นรีไฟแนนซ์
เอกสารที่จำเป็นต้องเตรียมเพื่อยื่นขอรีไฟแนนซ์ได้แก่
- เอกสารแสดงข้อมูลส่วนบุคคล อย่าง บัตรประชาชน สำเนาใบเปลี่ยนชื่อสกุล สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านของคู่สมรส
- เอกสารแสดงรายได้ อย่าง สลิปเงินเดือน สเตทเมนต์ธนาคารย้อนหลัง
- เอกสารด้านหลักประกัน อย่าง โฉนดที่ดิน สัญญาเงินกู้ธนาคารเดิม โดยยอดหนี้เงินกู้ที่มีสามารถขอเป็นสเตทเมนต์หรือว่าใบเสร็จก็ได้เช่นกัน เพื่อเป็นเอกสารที่สรุปยอดหนี้ที่มี
(หากมีผู้กู้ร่วม จะต้องให้ผู้กู้ร่วมเตรียมเอกสารแสดงข้อมูลส่วนบุคคล เอกสารแสดงรายได้ด้วย)
ซึ่งเอกสารที่จำเป็นต้องเตรียมนอกเหนือจากที่กล่าวไป จะขึ้นอยู่กับแต่ละธนาคารที่ติดต่อไป
5. สอบถามยอดหนี้ที่ยังคงเหลือกับธนาคารเก่า และนัดวันไถ่ถอน
เพื่อให้ธนาคารเก่าและธนาคารใหม่โอนหนี้ให้กันได้ข้อมูลถูกต้อง
6. ทำสัญญาและจดจำนองที่กรมที่ดินในวันเดียวกัน
ควรเตรียมเอกสารให้พร้อมเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ดูแลเอกสารและธุระภายในวันเดียวได้เลย
ค่าใช้จ่ายในการรีไฟแนนซ์
การทำการรีไฟแนนซ์ก็มีค่าใช้จ่ายเล็กน้อยอยู่บ้าง ได้แก่
- ค่าใช้จ่ายจากการขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์ เป็นค่าสินเชื่อที่จ่ายให้กับธนาคารแห่งใหม่ในการขอสินเชื่อกู้บ้านจากธนาคารใหม่
- ค่าใช้จ่ายกับกรมที่ดิน หรือ ค่าจดจำนอง เป็นค่าใช้จ่ายให้กรมที่ดิน
- ค่าปรับกรณีไถ่ถอนหลักประกันก่อนกำหนด หากอยู่ในช่วง 3 ปีแรกของการกู้และต้องการรีไฟแนนซ์ในช่วงเวลาดังกล่าวของสัญญาก็จะต้องจ่ายค่าปรับ แปลว่าถ้าอยู่ในช่วงนอกเวลาที่สัญญาระบุแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าปรับในส่วนนี้ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละธนาคาร
ข้อควรระวังในการรีไฟแนนซ์
การรีไฟแนนซ์แต่ละประเภทมีข้อควรสังเกตและเงื่อนไขที่ต้องระวังที่แตกต่างกัน เพื่อปกป้องสิทธิประโยชน์ส่วนตัวสูงสุด
- ตรวจเช็คอัตราดอกเบี้ยใหม่ ว่าหากเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายระหว่าง การขอลดดอกเบี้ยธนาคารเก่า และ การขอรีไฟแนนซ์ธนาคารใหม่ที่ต้องเสียค่าการขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์แล้ว หากเปลี่ยนเป็นการรีไฟแนนซ์จะมีส่วนต่างหรือไม่ ต้องจ่ายเท่าเดิมหรือไม่ เช่น การรีไฟแนนซ์คอนโดจะมีอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าดอกเบี้ยบ้าน หรือค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในส่วนของการจดจำนองที่ดินสำหรับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ฯลฯ
จึงควรศึกษาประเภทของสินเชื่อที่ต้องการขอ และเงื่อนไขของแต่ละธนาคารให้ละเอียดก่อนตัดสินใจทำรีไฟแนนซ์
- ตรวจเช็คโปรโมชั่นรีไฟแนนซ์ เนื่องจากโปรโมชั่นรีไฟแนนซ์ของแต่ละสถาบันการเงินนั้นมีหลากหลาย ควรพิจารณาจากสถานการณ์ส่วนตัวเป็นหลัก ว่าโปรโมชั่นใดสามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์และการใช้ชีวิตได้ดีที่สุด แทนที่จะเลือกจากโปรโมชั่นที่คนอื่นบอกต่อกันมา เพราะยอดหนี้คงเหลือที่เหมือนกันแต่อาชีพแตกต่างกัน ก็เป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการเลือกโปรโมชั่นได้เช่นกัน
- ตรวจเช็ครายละเอียดดอกเบี้ยการรีไฟแนนซ์บ้าน เพราะโฆษณาการรีไฟแนนซ์ในบางครั้งอาจพูดถึงการรีไฟแนนซ์ที่มีดอกเบี้ยถูกในปีแรก ซึ่งหากอ่านสัญญาโดยละเอียดแล้วจะพบว่าดอกเบี้ยจะสูงขึ้นในปีหลัง ควรคำนวณดอกเบี้ยแต่ละปีเพื่อดูถึงส่วนต่างด้วย
- ตรวจเช็คยอดผ่อนต่อเดือน ว่ายอดผ่อนต่อเดือนที่แปรผันแต่ละปีตามอัตราดอกเบี้ยนั้นเป็นยอดที่สามารถจ่ายได้ตามความเป็นจริงหรือไม่ จะเป็นปัญหาทางการเงินในภายหลังหรือไม่อย่างไร
- พิจารณาหาโปรโมชั่นที่เข้ากับสไตล์การผ่อนบ้าน เพราะแต่ละบุคคลมีแบบการผ่อนบ้านที่ไม่เหมือนกัน เช่น จ่ายทุกเดือนสม่ำเสมอ หรือจ่ายครั้งละเป็นก้อนใหญ่ เพื่อหาแผนการรีไฟแนนซ์ที่ดอกเบี้ยตอบโจทย์ต่อสไตล์การผ่อนบ้านได้อย่างคุ้มค่าที่สุด
เปลี่ยนการรีไฟแนนซ์ให้เป็นเรื่องง่าย ผ่าน Refinn
การรีไฟแนนซ์อาจเป็นเรื่องที่มีรายละเอียดมากมาย ทั้งการตรวจสอบโปรโมชั่น เตรียมเอกสารเพื่อยื่นสถาบันทางการเงินใหม่หลายครั้ง และการคำนวณค่าใช้จ่ายในระยะยาว
Refinn หรือ รีฟินน์ เป็นสตาร์ทอัพคนไทยที่ช่วยให้การรีไฟแนนซ์กลายเป็นเรื่องง่าย และเป็นเรื่องที่ฟรีเพราะว่าไม่มีการคิดค่าบริการเพิ่มจากผู้ใช้งาน มีผู้ใช้บริการหลักแสนมากจนถึง 200,000 คนเลยทีเดียว
บริการพิเศษที่รีฟินน์สามารถให้ผู้ใช้บริการได้ต่างจากสถาบันการเงินทั่วไปคือ นอกจากการดูความต้องการของลูกค้าแต่ละบุคคลแล้ว รีฟินน์ยังประเมินความเหมาะสม และความคุ้มค่า และหาโปรโมชั่นที่เหมาะสมที่สุดของลูกค้าแต่ละท่านได้อย่างละเอียดและเฉียบขาด
เพียงกรอกข้อมูล เช่น ราคาบ้านที่ซื้อ ยอดหนี้ที่คงเหลือ ยอดผ่อนต่อเดือน เวลาที่เหลือในการผ่อน รายได้ และธนาคาร รีฟินน์จะดึงข้อมูลจากธนาคารชั้นนำต่างๆมาเปรียบเทียบโปรโมชั่น และหาโปรที่เหมาะสมที่สุดให้ได้ในทันที
เพราะว่า 1 ธนาคารอาจมีมากถึง 10 โปรโมชั่น การมีผู้เชี่ยวชาญทางด้านการเงินและการรีไฟแนนซ์จาก Refinn จะช่วยให้คุณทำการรีไฟแนนซ์ได้อย่างคุ้มค่าที่สุดนั่นเอง
และอีกหนึ่งความสะดวกสบายที่รีฟินน์สามารถมอบให้ลูกค้าทุกท่านได้คือ ยื่นเอกสารเพียงครั้งเดียวก็สมัครได้หลายที่ ไม่จำเป็นต้องไปหลายธนาคารหลายสาขา เพียงกรอกข้อมูลผ่านรีฟินน์ครั้งเดียวก็ยื่นได้ทุกธนาคารชั้นนำที่เป็นพันธมิตรของรีฟินน์ ประหยัดเวลาลูกค้าได้หลักวัน
ทีมงานของรีฟินน์เป็นผู้เชี่ยวชาญ ล้วนมีประสบการณ์รีไฟแนนซ์ในด้านต่างๆ คอยดูแลและตามเรื่องของลูกค้าแต่ละท่านได้อย่างดี ไม่ต้องตามเรื่องเองให้เหนื่อย
และแน่นอนว่าการบริการของ Refinn นั้นฟรีในรูปแบบปกติ และยังมีแบบพรีเมี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการการดูแลอย่างละเอียดพิเศษอีกด้วย
การรีไฟแนนซ์กับ Refinn จะเป็นเรื่องที่อยู่แค่ปลายนิ้ว ด้วยบริการของ Refinn Alert ที่คอยเตือนคุณในเรื่องการรีไฟแนนซ์ การกรอกข้อมูลเอกสาร เพื่อทำให้การรีไฟแนนซ์จัดการได้ด้วยมือคุณเองภายในเวลาไม่ถึง 3 นาที
ข้อสรุป
แม้การรีไฟแนนซ์จะดูมีหลายขั้นตอนด้วยรายละเอียดต่างๆ แต่สามารถลดภาระ ค่าใช้จ่ายในการเดินทางและเตรียมตัวต่างๆได้ ด้วยการสมัครบริการของ Refinn ที่พร้อมให้บริการด้านการรีไฟแนนซ์หลายรูปแบบ สามารถดูรายละเอียดและปรึกษากับ Refinn ได้เลย