รีไฟแนนซ์บัตรเครดิต อีกหนึ่งวิธีที่ช่วยจัดการหนี้บัตรเครดิตดอกเบี้ยแพงได้ แต่จะกู้สินเชื่อปิดบัตรเครดิตจากธนาคารไหนดี ตามมาเช็กโปรโมชั่นสินเชื่อส่วนบุคคล ปี 2565 กันเลย
หนี้บัตรเครดิต ยังเป็นปัญหาใหญ่ที่ส่งผลให้หนี้ครัวเรือนของประเทศไทยพุ่งสูงขึ้น ด้วยโปรโมชั่นที่จูงใจ รูดก่อน ผ่อนทีหลัง ผ่อนขั้นต่ำก็ยังได้ ทำให้บางคนเผลอใช้เงินจนเกินตัว สุดท้ายกลายเป็นดินพอกหางหมู ผ่อนต่อไม่ไหว จ่ายแค่ดอกเบี้ยก็ยังเหนื่อย
เช่นนั้นแล้ว ถ้าใครเป็นหนี้บัตรเครดิตอยู่เยอะ หรือมีบัตรอยู่หลายใบ ไม่รู้จะจัดการอย่างไรดี การรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตที่โอนหนี้มารวมไว้ที่เดียวก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ อย่างน้อยก็ช่วยลดภาระดอกเบี้ยบัตรเครดิตจากปกติ 16-25% ให้น้อยลง มีโอกาสปลดหนี้ได้เร็วขึ้น วันนี้เราจึงรวบรวมสินเชื่อปิดบัตรเครดิต 2565 มาให้ศึกษาไว้เป็นข้อมูล
รีไฟแนนซ์บัตรเครดิต
คืออะไร มีข้อดีอย่างไร
รีไฟแนนซ์บัตรเครดิต คือ การรวมหนี้บัตรเครดิตทั้งหมดที่มี แล้วไปขอกู้สินเชื่อส่วนบุคคลจากสถาบันการเงินแห่งใหม่มาชำระสินเชื่อเดิมที่มีอยู่ พูดง่าย ๆ ก็คือ กู้เงินก้อนใหม่ที่มีดอกเบี้ยต่ำกว่า เพื่อนำเงินไปจ่ายหนี้เก่า จากนั้นก็เปลี่ยนมาผ่อนชำระกับธนาคารแห่งใหม่ที่เดียวแทน เหมือนเป็นการปรับโครงสร้างหนี้ใหม่ ส่วนใหญ่กู้ได้ไม่ยาก เพราะวงเงินกู้ไม่สูง และไม่ต้องใช้บุคคลหรือหลักทรัพย์ค้ำประกัน
ข้อดีของการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต
-
มีเงินก้อนนำไปชำระปิดหนี้บัตรเครดิตที่มีอยู่
-
ลดภาระหนี้ที่ต้องจ่ายต่อเดือน เพราะสินเชื่อตัวใหม่มีอัตราดอกเบี้ยถูกลงกว่าเดิม
-
ยืดเวลาผ่อนชำระหนี้ได้นานขึ้น
-
บริหารจัดการหนี้ง่ายขึ้น เพราะเหลือหนี้เพียงก้อนเดียว จึงมีโอกาสชำระหนี้ได้ตรงเวลาและปลดหนี้ได้เร็วขึ้น
-
ช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน
-
มีเงินสำรองไว้ใช้ยามฉุกเฉิน
อย่างไรก็ตาม ก่อนตัดสินใจรีไฟแนนซ์ควรพิจารณาและวางแผนการเงินให้ดี เพราะการกู้เงินเพิ่มเสี่ยงต่อการใช้จ่ายเงินเกินตัว และทำให้เกิดหนี้ก้อนใหม่ อีกทั้งการยืดเวลาชำระหนี้ออกไปให้นานขึ้น อาจทำให้ต้องจ่ายหนี้เป็นจำนวนเงินที่มากกว่าหนี้เดิมที่มีอยู่
รีไฟแนนซ์บัตรเครดิต
มีขั้นตอนอย่างไร
ในการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต สิ่งที่เราต้องทำ คือ
1. เช็กจำนวนหนี้บัตรเครดิตทุกใบว่ามียอดรวมเท่าไร
2. ตรวจสอบว่าเราสามารถชำระหนี้ต่อเดือนได้เท่าไร ผ่อนไหวแค่ไหน
3. หาข้อมูลสินเชื่อส่วนบุคคลของธนาคารต่าง ๆ ว่ามีโปรโมชั่นอะไรบ้างในช่วงนั้น
4. ติดต่อธนาคารเดิมที่มีหนี้บัตรอยู่เพื่อแจ้งปิดหนี้บัตร ซึ่งธนาคารบางแห่งอาจเสนอโปรโมชั่นใหม่ หรือลดอัตราดอกเบี้ยให้
5. เปรียบเทียบข้อเสนอสินเชื่อของธนาคารต่าง ๆ จากนั้นจึงติดต่อธนาคารแห่งใหม่
รีไฟแนนซ์บัตรเครดิต
ต้องเลือกอย่างไร
-
พิจารณารายได้ขั้นต่ำต่อเดือนของเราว่าสามารถขอสินเชื่อส่วนบุคคลตัวไหนได้บ้าง ซึ่งธนาคารบางแห่งมีโปรโมชั่นดอกเบี้ยพิเศษให้ผู้ที่มีเงินเดือนตามเกณฑ์ที่กำหนด
-
ดูจำนวนเงินที่เราต้องการกู้ แล้วตรวจสอบวงเงินสูงสุดที่ธนาคารให้กู้ได้ ซึ่งโดยทั่วไปธนาคารจะให้สินเชื่อไม่เกิน 2-5 เท่าของรายได้ต่อเดือน แต่ถ้าไม่สามารถกู้เต็มวงเงินเพื่อนำไปโปะหนี้ทั้งหมดได้ ควรเลือกปิดหนี้บัตรที่มีดอกเบี้ยแพงที่สุดก่อน
-
กรณีเป็นพนักงานประจำ ลองมองหาสินเชื่อส่วนบุคคลจากธนาคารที่ใช้รับบัญชีเงินเดือนดูก่อน เพราะอาจได้รับสิทธิพิเศษบางอย่าง หรืออัตราดอกเบี้ยถูกกว่าบุคคลทั่วไป
-
เปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยของแต่ละธนาคาร รวมทั้งโปรโมชั่นในช่วงนั้น โดยอัตราดอกเบี้ยมีอยู่หลายรูปแบบ คือ
-
อัตราดอกเบี้ยคงที่ตลอดระยะเวลาผ่อน เช่น 15% ต่อปี นาน 60 เดือน
-
อัตราดอกเบี้ยต่ำในช่วงแรก หลังจากนั้นจึงค่อยปรับสูงขึ้น เช่น 9.99% ในปีแรก และปรับเพิ่มขึ้นตั้งแต่ปีที่ 2 เป็นต้นไป
-
อัตราดอกเบี้ยลอยตัว เช่น MRR+7.00%
-
-
พิจารณาระยะเวลาที่ต้องการผ่อน โดยสินเชื่อบางตัวการผ่อนระยะเวลาสั้นจะคิดดอกเบี้ยถูกกว่า
-
พิจารณาเงินงวดที่ต้องผ่อนจ่ายในแต่ละเดือน เนื่องจากสินเชื่อบางตัวคิดดอกเบี้ยถูก แต่มียอดผ่อนสูง อาจส่งผลต่อการหมุนเงินใช้ในชีวิตประจำวัน ดังนั้นอาจมองหาสินเชื่อที่คิดดอกเบี้ยแพงกว่า แต่ให้ผ่อนชำระในแต่ละเดือนน้อยกว่า
-
ตรวจสอบโปรโมชั่นอื่น ๆ เช่น ฟรีค่าธรรมเนียม ลดดอกเบี้ยหรือสิทธิพิเศษเมื่อสมัครผ่านแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์
สรุปก็คือ ควรเลือกสินเชื่อส่วนบุคคลที่คิดดอกเบี้ยต่ำที่สุด แต่ต้องพิจารณาเงื่อนไขต่าง ๆ ประกอบด้วย เช่น จำนวนวงเงินให้กู้ ระยะเวลาผ่อนชำระ จำนวนเงินที่ต้องผ่อนชำระต่อเดือน เพื่อให้ตรงความต้องการ และช่วยแบ่งเบาภาระหนี้ให้เราได้มากที่สุด
สินเชื่อปิดหนี้บัตรเครดิต ที่ไหนดี ปี 2565
ปัจจุบันสินเชื่อส่วนบุคคลมีอยู่หลายผลิตภัณฑ์และหลายธนาคาร ในที่นี้จึงขอยกตัวอย่างสินเชื่อที่มีโปรโมชั่นดอกเบี้ยต่ำ ในช่วงปลายปี 2565 มาบอกต่อกัน หากใครต้องการข้อมูลเพิ่มเติม แนะนำให้สอบถามเงื่อนไขและรายละเอียดจากธนาคารอีกครั้ง
1. สินเชื่อส่วนบุคคล UOB i-CASH ธนาคารยูโอบี
ภาพจาก : ธนาคารยูโอบี
สินเชื่อปิดบัตรเครดิต UOB เป็นสินเชื่อที่ให้วงเงินกู้สูงสุด 2,000,000 บาท พร้อมรับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 5.99-9.99% (2 เดือนแรก) ตามเงื่อนไขที่กำหนด อนุมัติภายใน 3 วัน หลังจากได้รับเอกสารครบถ้วน หรือหากใครเปลี่ยนใจไม่ต้องการใช้เงินแล้วก็สามารถยกเลิกวงเงินได้ภายใน 7 วัน หลังได้รับอนุมัติ โดยไม่เสียค่าธรรมเนียม
-
อายุผู้สมัคร : 20-60 ปี
-
รายได้ขั้นต่ำ :
-
พนักงานประจำ 15,000 บาท/เดือน
-
เจ้าของกิจการ 20,000 บาท/เดือน
-
-
วงเงินให้กู้ : สูงสุด 2,000,000 บาท
-
อัตราดอกเบี้ย : 5.99-24.99% ต่อปี (ตามเงื่อนไขที่กำหนด)
-
ระยะเวลาผ่อนชำระ : 12-60 เดือน ผ่อนเท่ากันทุกเดือน อัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก
-
ระยะเวลาโปรโมชั่น : 1 ตุลาคม – 31 ธันวาคม 2565
-
ช่องทางสมัคร :
-
สาขาของธนาคาร
-
เว็บไซต์ uob.co.th
-
-
ข้อมูลเพิ่มเติม : i-Cash Hotline โทร. 1420 หรือ ธนาคารยูโอบี
2. สินเชื่อส่วนบุคคล Happy Cash ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์
ภาพจาก : ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์
สินเชื่อส่วนบุคคลจาก LH Bank ที่ให้เงินก้อนมาใช้จ่ายตามใจ รวมทั้งเคลียร์หนี้บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด และสินเชื่อต่าง ๆ ดอกเบี้ยเริ่มต้นเพียง 8.88% ต่อปี อนุมัติภายใน 3 วันทำการ โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์หรือบุคคลค้ำประกัน
-
อายุผู้สมัคร : 21-59 ปี (อายุผู้กู้เมื่อรวมกับระยะเวลาผ่อนชำระต้องไม่เกิน 60 ปี)
-
รายได้ขั้นต่ำ : 30,000 บาท/เดือน
-
วงเงินให้กู้ : สูงสุด 5 เท่าของรายได้ หรือไม่เกิน 1,500,000 บาท
-
อัตราดอกเบี้ย : 8.88-18.88% ต่อปี (ตามเงื่อนไขที่กำหนด)
-
ระยะเวลาผ่อนชำระ : 12-60 เดือน ผ่อนเท่ากันทุกเดือน อัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก
-
ระยะเวลาโปรโมชั่น : 1-31 ตุลาคม 2565
-
ช่องทางสมัคร :
-
สาขาธนาคาร
-
เว็บไซต์ lhbank.co.th
-
- ข้อมูลเพิ่มเติม : LH Bank Call Center โทร. 1327 หรือ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์
3. สินเชื่อบุคคล เพอร์ซันนัลแคช ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย
ภาพจาก : ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย
สินเชื่อปิดบัตรเครดิต CIMB THAI ที่ให้วงเงินอนุมัติสูงสุด 5 เท่าของรายได้ คิดอัตราดอกเบี้ยเริ่มต้นเพียง 9% ต่อปี สามารถเลือกอัตราดอกเบี้ยและระยะเวลาผ่อนได้ตามใจ
-
อายุผู้สมัคร : 21-59 ปี (อายุรวมระยะเวลาผ่อนชำระต้องไม่เกิน 60 ปี)
-
รายได้ขั้นต่ำ : 15,000 บาท/เดือน
-
วงเงินให้กู้ : 20,000-2,000,000 บาท (สูงสุดไม่เกิน 5 เท่าของรายได้)
-
อัตราดอกเบี้ย : 9-25% ต่อปี (ขึ้นอยู่กับรายได้ต่อเดือนและระยะเวลาผ่อนชำระ)
-
ระยะเวลาผ่อนชำระ : 12-60 เดือน ชำระคืนเท่ากันทุกงวด อัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก
-
ระยะเวลาโปรโมชั่น : 3 มิถุนายน – 31 ธันวาคม 2565
-
ช่องทางสมัคร :
-
สาขาของธนาคาร
-
เว็บไซต์ cimbthaionlinecampaign.com
-
แอปพลิเคชัน สินเชื่อธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย
-
-
ข้อมูลเพิ่มเติม : CIMB Thai Care Center โทร. 0-2626-7777 หรือ ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย
4. สินเชื่อส่วนบุคคล ธนาคารออมสิน
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก GSB Society
อีกหนึ่งสินเชื่อปิดบัตรเครดิต ธนาคารออมสิน 2565 ที่หลายคนสนใจ เพราะกู้ง่าย ดอกเบี้ยต่ำ ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน และให้วงเงินกู้สูงสุด 10 เท่าของรายได้ ผ่อนได้นานสูงสุดถึง 7 ปี
-
อายุผู้สมัคร : 20 ปีขึ้นไป และเมื่อรวมอายุผู้กู้กับระยะเวลาที่ชำระเงินกู้ต้องไม่เกิน 65 ปี
-
รายได้ขั้นต่ำ :
-
พนักงานประจำ 20,000 บาท/เดือน
-
เจ้าของกิจการ 30,000 บาท/เดือน
-
-
วงเงินให้กู้ : สูงสุด 10 เท่าของรายได้ หรือไม่เกิน 500,000 บาท
-
อัตราดอกเบี้ย : 9.99% (MRR + 3.745) ถึง 13.99% (MRR + 7.745) ต่อปี (ตามเงื่อนไขที่กำหนด)
* หมายเหตุ : ปัจจุบัน MRR = 6.150 ตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป
-
ระยะเวลาผ่อนชำระ : สูงสุดไม่เกิน 7 ปี (84 เดือน)
-
ช่องทางสมัคร :
-
สาขาธนาคาร
-
เว็บไซต์ gsb.or.th
-
Application MyMo by GSB
-
-
ข้อมูลเพิ่มเติม : GSB Call Center โทร. 1115 หรือ ธนาคารออมสิน
5. สินเชื่อหมุนเวียนส่วนบุคคล ย้อนก่อนแย่ ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย
ภาพจาก : ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย
สินเชื่อหมุนเวียนส่วนบุคคล ย้อนก่อนแย่ จากธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย ให้กู้เป็นวงเงินพร้อมใช้ เบิกได้บ่อยตามที่ต้องการ หรือรีไฟแนนซ์รวมหนี้บัตรเครดิต หนี้สินเชื่อบุคคลที่มีดอกเบี้ยแพง เพื่อลดภาระการผ่อนในแต่ละเดือน โดยคิดดอกเบี้ยต่ำสุด 9.99% ต่อปี นาน 2 ปี (ตามเงื่อนไขที่กำหนด)
-
อายุผู้สมัคร : 20-65 ปี
-
รายได้ขั้นต่ำ : 30,000 บาท/เดือน
-
วงเงินให้กู้ : สูงสุด 5 เท่าของรายได้ หรือไม่เกิน 2,000,000 บาท
-
อัตราดอกเบี้ย : 9.99-19.99% ต่อปี (ตามเงื่อนไขที่กำหนด)
-
ระยะเวลาโปรโมชั่น : 1 มิถุนายน – 31 ธันวาคม 2565
-
ช่องทางสมัคร :
-
สาขาธนาคาร
-
เว็บไซต์ tcrbank.com
-
-
ข้อมูลเพิ่มเติม : โทร. 0-2697-5454 หรือ ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย
6. สินเชื่อบุคคลซิตี้
ภาพจาก : ธนาคารซิตี้แบงก์
สินเชื่อปิดบัตรเครดิตจาก Citi Bank เป็นอีกหนึ่งธนาคารที่คิดดอกเบี้ยต่ำสุด 9.99% ต่อปี (ตามเงื่อนไขที่กำหนด) อนุมัติไว ไม่ต้องมีคนหรือทรัพย์สินค้ำประกัน จึงช่วยปิดยอดบัตรและสินเชื่อได้สะดวก รวดเร็ว
-
อายุผู้สมัคร : 21 ปีขึ้นไป (รวมระยะเวลาผ่อนชำระแล้วไม่เกิน 60 ปี )
-
รายได้ขั้นต่ำ :
-
พนักงานประจำ 20,000 บาท/เดือน
-
เจ้าของกิจการ ต้องจดทะเบียนบริษัทและดำเนินธุรกิจประเภทเดียวกันไม่ต่ำกว่า 1 ปี
-
-
วงเงินให้กู้ : สูงสุด 2,000,000 บาท ดังนี้
-
ผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาท/เดือน จะได้รับวงเงินสินเชื่อสูงสุด 2 เท่าของรายได้
-
ผู้ที่มีรายได้ตั้งแต่ 30,000 บาท/เดือน จะได้รับวงเงินสินเชื่อสูงสุด 5 เท่าของรายได้
-
-
อัตราดอกเบี้ย : 9.99-24.99% ต่อปี (ตามเงื่อนไขที่กำหนด)
-
ระยะเวลาผ่อนชำระ : 12-60 เดือน
-
ระยะเวลาโปรโมชั่น : 1-31 ตุลาคม 2565
-
ช่องทางสมัคร :
-
สาขาของธนาคาร
-
เว็บไซต์ citibank.co.th
-
-
ข้อมูลเพิ่มเติม : โทร. 0-2081-1999 หรือ ธนาคารซิตี้แบงก์
7. สินเชื่อบุคคล Speedy Loan Balance Transfer ธนาคารไทยพาณิชย์
ภาพจาก : ธนาคารไทยพาณิชย์
ตัดจบหนี้ที่อื่น แล้วมารวบหนี้ไว้ที่สินเชื่อปิดบัตรเครดิตของธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งจะช่วยให้จ่ายดอกเบี้ยน้อยลง กู้ได้สูงสุด 5,000,000 บาท โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์หรือบุคคลค้ำประกัน และไม่มีค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินและจัดการเงินกู้
-
อายุผู้สมัคร : 20-60 ปี
-
รายได้ขั้นต่ำ : 15,000 บาท/เดือน
-
วงเงินให้กู้ : 20,000-5,000,000 บาท (สูงสุดไม่เกิน 5 เท่าของรายได้)
-
อัตราดอกเบี้ย : 9.99-25% ต่อปี (ตามเงื่อนไขที่กำหนด)
-
ระยะเวลาผ่อนชำระ : 12-72 เดือน
-
ระยะเวลาโปรโมชั่น : 1 ตุลาคม – 31 ธันวาคม 2565
-
ช่องทางสมัคร :
-
สาขาของธนาคาร
-
เว็บไซต์ scb.co.th
-
-
ข้อมูลเพิ่มเติม : SCB Call Center โทร. 0-2777-7777 หรือ ธนาคารไทยพาณิชย์
8. สินเชื่อหมุนเวียนส่วนบุคคล ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
ภาพจาก : ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
ใครเป็นพนักงานประจำที่รับเงินเดือนผ่านบัญชีธนาคารกรุงศรีอยุธยา มีสิทธิ์รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 9.99% ต่อปี นาน 3 เดือน ส่วนคนทั่วไปที่ไม่ได้รับเงินเดือนผ่านบัญชีธนาคารกรุงศรีอยุธยา ยังมีอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 10.99% ให้นาน 1 ปี (ตามเงื่อนไขที่กำหนด) และหากสมัครผ่านออนไลน์ ยังฟรีค่าอากรแสตมป์, ค่าธรรมเนียมจัดการเงินกู้, ค่าธรรมเนียมการโอนเงินเข้าบัญชีอื่น หลังได้รับการอนุมัติ และค่าธรรมเนียมการเบิกถอนเงินผ่านบัตรเบิกถอนเงินสดทุกครั้ง ทุกช่องทาง
-
อายุผู้สมัคร : 20-59 ปี
-
รายได้ขั้นต่ำ :
-
พนักงานประจำ 15,000 บาท/เดือน
-
เจ้าของกิจการ 20,000 บาท/เดือน
-
-
วงเงินให้กู้ : สูงสุด 5 เท่าของรายได้ หรือไม่เกิน 2,000,000 บาท
-
อัตราดอกเบี้ย : 9.99-25% ต่อปี (ตามเงื่อนไขที่กำหนด)
-
ระยะเวลาผ่อนชำระ : 12-60 เดือน
-
ระยะเวลาโปรโมชั่น : 1 มกราคม – 31 ธันวาคม 2565
-
ช่องทางสมัคร :
-
สาขาของธนาคาร
-
เว็บไซต์ krungsri.com กรณีสมัครผ่านออนไลน์ ฟรีค่าธรรมเนียม 4 รายการ
-
-
ข้อมูลเพิ่มเติม : โทร. 1572 หรือ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
9. บัตรกดเงินสด ทีทีบี แฟลช ธนาคารทหารไทยธนชาต
ภาพจาก : ธนาคารทหารไทยธนชาต
สำหรับคนที่ต้องการทำบัตรกดเงินสดด้วย ธนาคารทหารไทยธนชาตก็มีบริการโอนยอดหนี้บัตรต่าง ๆ มายังบัตรกดเงินสด ทีทีบี แฟลช ซึ่งจะช่วยลดหนี้ดอกแพงมาให้ผ่อนน้อยลง ปิดหนี้เร็วขึ้น ด้วยอัตราดอกเบี้ยถูกสุด 13% ต่อปี คงที่จนกว่าจะจ่ายหมด
-
อายุผู้สมัคร : 20-60 ปี
-
รายได้ขั้นต่ำ :
-
พนักงานประจำ 15,000 บาท/เดือน
-
เจ้าของกิจการ 30,000 บาท/เดือน
-
-
วงเงินให้กู้ :
-
ผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาท/เดือน จะได้รับวงเงินสินเชื่อสูงสุด 2 เท่าของรายได้
-
ผู้ที่มีรายได้ตั้งแต่ 30,000 บาท/เดือน จะได้รับวงเงินสินเชื่อสูงสุด 5 เท่าของรายได้ และสูงสุดไม่เกิน 300,000 บาท
-
-
อัตราดอกเบี้ย : คงที่ 13-20% ต่อปี จนจ่ายหมด นานสูงสุด 99 เดือน หลังจากนั้นอัตราดอกเบี้ย 25% ต่อปี (เฉพาะยอดจำนวนเงินบริการโอนยอดหนี้ที่มีการโอนเงินเข้าบัญชี หากมีการเบิกถอนเงินสดในภายหลังจะไม่ได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษนี้)
-
ระยะเวลาผ่อนชำระ : สูงสุด 99 เดือน
-
ระยะเวลาโปรโมชั่น : 11 ตุลาคม – 31 ธันวาคม 2565 และได้รับอนุมัติภายในวันที่ 31 มกราคม 2566 เท่านั้น
-
ช่องทางสมัคร :
-
สาขาของธนาคาร
-
เว็บไซต์ ttbbank.com
-
-
ข้อมูลเพิ่มเติม : โทร. 1428 หรือ ธนาคารทหารไทยธนชาต
10. สินเชื่อกรุงไทยเปย์เดะ ธนาคารกรุงไทย
ภาพจาก : ธนาคารกรุงไทย
สินเชื่อปิดบัตรเครดิต ธนาคารกรุงไทย 2565 จริง ๆ มีให้เลือกหลายผลิตภัณฑ์ อย่างสินเชื่อกรุงไทยเปย์เดะ เป็นสินเชื่ออเนกประสงค์พร้อมใช้ที่กู้ได้ง่าย ๆ ผ่านแอปพลิเคชัน Krungthai NEXT ให้วงเงินสูงสุดถึง 1,000,000 บาท แต่เงื่อนไขสำคัญคือ ให้กู้เฉพาะพนักงานบริษัทเอกชนที่รับเงินเดือนผ่านบัญชีกรุงไทย
-
อายุผู้สมัคร : 20-60 ปี
-
รายได้ขั้นต่ำ : 30,000 บาท/เดือน
-
วงเงินให้กู้ : สูงสุด 5 เท่าของรายได้ หรือไม่เกิน 1,000,000 บาท
-
อัตราดอกเบี้ย : 13.22% ต่อปี (MRR+7.00%)
* หมายเหตุ : ปัจจุบัน MRR = 6.22% ต่อปี ตั้งแต่วันที่ 4 ตุลาคม 2565
-
ระยะเวลาผ่อนชำระ : 12-60 เดือน
-
ช่องทางสมัคร : แอปพลิเคชัน Krungthai NEXT
-
ข้อมูลเพิ่มเติม : Call Center โทร. 0-2111-1111 หรือ ธนาคารกรุงไทย
อย่างไรก็ตาม สำหรับคนที่มีหนี้บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด และสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน ที่ไม่ได้ชำระหรือไม่ได้ชำระขั้นต่ำเป็นระยะเวลาติดต่อกันมากกว่า 91-120 วัน และเป็นหนี้เสียก่อนวันที่ 1 กันยายน 2565 ตามรายงานเครดิตบูโร ณ เดือนสิงหาคม 2565 รวมทั้งมียอดหนี้คงเหลือไม่เกิน 2,000,000 บาท กรณีนี้แนะนำให้เข้าร่วมโครงการ “คลินิกแก้หนี้” ซึ่งจะช่วยรวมหนี้ของสถาบันการเงิน 35 แห่ง มาไว้ที่เดียว และให้เราผ่อนชำระได้ในอัตราดอกเบี้ยเพียง 3-5% ต่อปี เท่านั้น ลองมาเช็กคุณสมบัติและเงื่อนไขต่าง ๆ ได้ที่นี่ >> คลินิกแก้หนี้ 2565 อัปเดตเงื่อนไขใหม่ ใครอยากปลดหนี้มาทางนี้ !
จริง ๆ แล้ว การรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตเป็นเพียงการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ดังนั้น สิ่งที่ควรทำก็คือ หยุดสร้างหนี้ บริหารจัดการเงินให้ดี และวางแผนออมเงิน เพื่อจะได้ไม่มีหนี้สินท่วมตัวให้เป็นภาระต่อไปในอนาคต
บทความเกี่ยวกับกู้เงินและบัตรเครดิต
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย, ธนาคารยูโอบี, ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์, ธนาคารออมสิน, เฟซบุ๊ก GSB Society, ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย, ธนาคารซิตี้แบงก์, ธนาคารไทยพาณิชย์, ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย, ธนาคารทหารไทยธนชาต, ธนาคารกรุงไทย